เจรจาหลายชั่วโมงไม่เป็นผล ทีม DSI พร้อมกำลังตำรวจบุกจับธัมมชโยถึงวัด สุดท้ายกลับกรมมือเปล่า ด้านลูกศิษย์ธัมชโยออกตัวปกป้องหลวงพ่ออาพาธหนัก รอบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้วจะยอมให้จับ!!
ไม่ได้หนี แต่ไม่ให้จับ?!
ยืดเยื้อกันอยู่นานจนในที่สุด DSI พร้อมด้วยหมายศาล ได้เข้าบุกตามแผน กบิล 59 เพื่อเข้าตรวจค้นวัดตามหมายศาล แต่คณะศิษยานุศิษย์ของธัมมชโย ขัดขวางไม่ยอมให้ทาง DSI เข้าไป แถมอ้างว่าจะยอมมอบตัวก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติและเป็นประชาธิปไตยเท่านั้น สุดท้ายการเจรจาก็ไม่เป็นผล คว้าน้ำเหลวไร้เงาธัมมชโย
ศาลอาญา รัชดาภิเษกได้อนุมัติหมายค้นวัดธรรมกายแล้ว ทาง DIS ตำรวจปราบจลาจลกว่า 3 กองร้อย รวมไปถึงฝ่ายปกครองและทหาร ได้เดินทางมายังวัด เพื่อขอตรวจค้นอาคารและสิ่งปลูกสร้างกว่า 196 ไร่ โดยมีกำลังสนับสนุนอยู่โดยรอบ ซึ่งทาง DSI ได้แสดงหมายค้นต่อทางวัด จากนั้นตัวแทนของทางวัดจึงพาเจ้าหน้าที่บางส่วน เข้าไปภายในเพื่อเจรจาในห้องรับรอง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้วย
ทางฝั่งของคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายและชาวบ้านชุมชนรังสิตคลองหลายร้อยคน ได้มานั่งชุมนุมเป็นโล่มนุษย์ ปักหลักเจริญภาวนาส่งกำลังใจท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย และยังมีการแจกเอกสารแถลงการณ์จากคณะศิษย์ฯให้กับสื่อมวลชน ซึ่งในเอกสารมีใจความว่า หลวงพ่อธัมมชโยมีอาการอาพาธอย่างรุนแรง ทางคณะศิษย์ฯมีความเห็นตรงกันว่า จะยอมให้หลวงพ่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ คือเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์
นอกจากนี้ยังมีการประกาศผ่านเสียงตามสายในระหว่างที่ที่ศิษยานุศิษย์นั่งชุมนุมกันอยู่โดยย้ำอย่างหนักแน่นว่า”เพราะบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยดังนั้นจึงไม่มีการมอบตัวหลวงพ่อให้”
อีกทั้งข้อกล่าวหานี้มีอายุความถึง 15 ปี การที่จะรอให้พระธัมมชโยหายจากอาการอาพาธก่อนจึงไม่เป็นการล่าช้าและไม่เสียหายต่อรูปคดีแต่อย่างใด ซึ่งทางคณะศิษย์ฯ ยังมีการขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นภายในวัดด้วย ซึ่งในช่วง 11.00 น. ได้มีการพักการเจรจาไว้ เนื่องจากต้องรอพระฉันเพลให้เสร็จก่อน
ต่อมาก็ได้มีการแถลงข่าวยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายร่วมกันระหว่าง ตัวแทนจาก DSI พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดี DSI ตัวแทนจากวัดพระธรรมกาย พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ในส่วนของการเจรจานั้น มีผลสรุปว่า ทาง DSI ได้ใช้ความพยายามในการเข้าตรวจค้นอย่างละมุนละม่อม ปราศจากอาวุธ โดยคำนึงถึงความสงบเรียบร้อย ในภาพรวมพอใจกับเหตุการณ์ในวันนี้ ส่วนการเจรจาต่อรองกับลูกศิษย์นั้น ทำได้เพียงบางส่วนเพราะทางคณะศิษย์ฯ ได้ขัดขวาง แต่ทาง DSI มั่นใจว่าพระธัมมชโยยังคงพักรักษาตัวอยู่ภายในวัด
ด้านตัวแทนจากวัดพระธรรมกายก็บอกว่า ทางวัดพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เสมอ โดยให้เหตุผลว่าพระธัมมชโยยังอาพาธอยู่ รับทราบข้อกล่าวหาทุกอย่าง และยังยืนยันอีกว่าพระธัมมชโยไม่ได้หนีไปไหนแน่นอน
หลังจากที่ข่าวการยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายถูกเผยแพร่ไป ทำให้คนบนโลกโซเชียลที่เฝ้าเกาะติดสถานการณ์นี้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด และบรรทัดต่อจากนี้คือความคิดเห็นของโลกโซเชียลต่อเหตุการณ์นี้
“ไร้น้ำยา จะจับคนร้ายยังมาประกาศวันเวลาสถานที่เข้าจับให้เขารู้ ระบบไหนเขาทำกัน”
“เดี๋ยวนะ แล้วคนที่มาขวางนี่ไม่ได้เข้าข่าย "ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่" เหรอ”
“คิดไปคิดมารู้สึกสงสารธรรมกายเหมือนกันเพราะลูกศิษย์พยายามแถไปเรื่อยทั้งที่รู้ว่ามันผิดดีไม่ดีติดคุกฟรีอีก”
“จับคนเลวในผ้าเหลือง ต้องใช้ตำรวจยิ่งกว่าจลาจลอีก ผู้มีอิทธิพลทางศาสนา” และอีกมากมายที่ส่วนใหญ่แสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าบทสรุปจะลงเอยเช่นไร แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อมานานหลายเดือน ความมีอิทธิพลของพระธัมมชโยที่มีต่อผลศิษยานุศิษย์อย่างมาก สังเกตได้จากการออกปกป้องพระเดชพระคุณพระเทพมหามุนีที่ตนเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ทางวัดพระธรรมกายจะงัดลูกเล่นอะไรมาใช้ในการหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่อีก
คณะสงฆ์ไม่เกี่ยวข้องกับธัมมี่!
สืบเนื่องจากการเจรจา 3 ฝ่ายครั้งสุดท้าย เพื่อหาข้อสรุปในการให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาทวัดพระธรรมกาย และผู้ต้องหาร่วมกันคดีฟอกเงินและรับของโจร ให้ออกมารับทราบข้อกล่าวหาและมอบตัวต่อทาง DSI เรื่องนี้ทางฝ่ายคณะสงฆ์ยืนยันว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของพระธัมมชโย อย่าเอาคณะสงฆ์เข้าไปเกี่ยวข้อง
ในการเจรจาประกอบไปด้วย พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี , พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)และคณะพนักงานสอบสวน รวมทั้ง สมเกียรติ ธงศรี ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมี สมศักดิ์ โตรักษา ทนายความวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในฐานะตัวแทนผู้ประสานงานวัดพระธรรมกาย เข้าร่วมด้วย
[ ขอบคุณภาพประกอบ : http://mediastudio.co.th/2016/06/15/23974/ ]
ทางด้านเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ระบุว่า ในเรื่องนี้เป็นความผิดส่วนบุคคลไม่ใช่เป็นความผิดเกี่ยวกับการปกครองทางสงฆ์ เป็นการกล่าวโทษของฝ่ายบ้านเมือง ดังนั้นอย่าเอาคณะสงฆ์เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนจะดำเนินการกับพระธัมมชโยอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของทางกฎหมาย
ส่วนทางรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นกระบวนการตามหมายจับ ซึ่งมีอยู่ 2 ทางคือ การเข้ามอบตัวของทางพระธัมชโยเอง ซึ่งจะต้องมีการประสานงานไปทางอัยการเพื่อมอบตัว ส่วนอีกทางคือการจับกุมตัวตามหมายจับ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อยู่เป็นเวลา 15 ปี และจะไม่มีการประกันตัวใดๆ ทั้งสิ้น แต่ทั้งหมดนี้นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางพระธัมมชโยว่าจะทำอย่างไรต่อไป
[ ขอบคุณภาพประกอบ : http://mediastudio.co.th/2016/06/15/23974/ ]
"ขั้นต่อไปเป็นการดำเนินการตามหมายจับ คือการยอมมอบตัวเองและการเข้าจับกุมตัว ส่วนการประสานงานกับทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีที่ผ่านมาไม่ได้ล้มเหลว ทุกอย่างในกระบวนการเจรจาทั้งหมด แต่เมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนสอบสวนไปแล้ว ทำให้เงื่อนไขต่างๆ ต้องเปลี่ยนตามไป ซึ่งขณะนี้ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานอัยการ การเจรจาของคณะทำงานชุดนี้ก็ต้องยุติลง" พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวทิ้งท้าย
ส่วนเรื่องจะเอาผิดทางพระธรรมวินัยนั้น ตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาบอกว่า ต้องให้คดีความทางกฎหมายเสร็จสิ้นเสียก่อน แล้วถึงจะเอาผิดทางพระธรรมวินัยได้ภายหลัง และต้องมีผู้เข้ามาร้องทุกข์อีก จึงจะมีการพิจารณาเอาผิดพระธัมมชโยทางพระธรรมวินัยได้
ข่าวโดย : ผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754