เครือข่ายชุมชนรอบเหมืองทองอัครา พร้อมตัวแทนบริษัทร้องผู้ตรวจฯ ให้คำแนะ ครม.หลังสั่งปิดสิ้นปี ชี้มีผลกระทบเศรษฐกิจและคนในพื้นที่ พร้อมยื่น 5,787 รายชื่อกรมอุตฯ ยันประชาชนโดยรอบหนุนเหมือง
วันนี้ (27 ก.ค.) เครือข่ายผู้นำชุมชนและประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี นำโดยนายฝ้าย มหาสัตย์ นายก อบต.วังโพรง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยตัวแทนของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอความเป็นธรรม หลังคณะรัฐมนตรีมีมติปิดกิจการเหมืองแร่ทองคำภายในสิ้นปีนี้ โดยที่มีการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมของบริษัทอัคราเพียง 6 เดือนถึงสิ้นปีนี้ โดยเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และเพชรบูรณ์
โดยนายฝ้ายกล่าวว่า หากเหมือนทองปิดตัวลงจะทำให้พนักงานเหมืองซึ่งเป็นคนในพื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบต่อครอบครัวของพนักงาน และยังจะสร้างผลกระทบต่อประชาชนประมาณ 29 หมู่บ้านที่อาศัยอยู่รอบเหมืองทองดังกล่าวด้วย เพราะจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากค่าภาคหลวงแร่ที่จัดสรรลงมาในพื้นที่ และเงินสนับสนุนจากเหมือง รวมทั้งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในพื้นที่รอบเหมือนและสภาพเศรษฐกิจของ จ.พิจิตร และเพชรบูรณ์ด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าประชาชนโดยรอบอยู่ร่วมกับเหมืองทองคำได้เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา แต่ความขัดแย้งกับเหมืองนั้นมีอยู่ในคนจำนวนน้อยที่หวังประโยชน์จากการขายที่ดิน หรือการเรียกค่าชดเชยที่ไม่สมเหตุสมผล ดังนั้น เครือข่ายจึงได้รวบรวมรายชื่อประชาชนในพื้นที่จำนวน 5,787 รายชื่อยื่นให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สนับสนุนการทำเหมือนทองดังกล่าวต่อไป และอยากให้ผู้ตรวจการฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลเรื่องการต่ออายุใบอนุญาต และหากเห็นว่าคำสั่งปิดเหมืองทองไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ทำคำแนะนำและข้อเสนอแนะที่เหมาะสมไปยัง ครม.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง