xs
xsm
sm
md
lg

บุกป่าช้าพิสูจน์ตอต้นไม้พะยูง สามพี่น้องกาฬสินธุ์เก็บเศษฟืนถูกจับ(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - สามพี่น้องชาวตำบลคลองขาม อ.ยางตลาด ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาดจับคดีร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำเจ้าหน้าที่ทหารและกรรมการศูนย์ยุติธรรมตำบลบุกป่าช้าสำรวจตอต้นพะยูง และพิสูจน์ของกลางที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์



จากกรณี น.ส.ประดิษฐ์ ภูนามูล อายุ 50 ปี นายถนอม ภูนามูล อายุ 49 ปี และนางทองผุด แจ้งเณร อายุ 42 ปี ชาว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทั้งสามคนเป็นพี่น้องกัน พร้อมชาวบ้านกว่า 40 คน รวมตัวกันร้องทุกข์และขอความเป็นธรรมต่อนายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรม และ ร.ต.ประธาน ประไชยโย หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย ม.พัน.14 จ.กาฬสินธุ์ หลังออกไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนและเผาถ่าน แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จับกุมในข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยทั้ง 3 คนระบุว่าถูกกลั่นแกล้ง พร้อมวอนขอความช่วยเหลือจากกระบวนการยุติธรรม เพื่อตรวจสอบการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ให้ทำการรื้อคดี และคืนความเป็นธรรม ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ค.) น.ส.ประดิษฐ์ ภูนามูล นายถนอม ภูนามูล และนางทองผุด แจ้งเณร สามพี่น้องได้นำนายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรม ร.ต.ประธาน ประไชยโย หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย ม.พัน.14 จ.กาฬสินธุ์ และคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมตำบลคลองขามเข้าตรวจสอบจุดที่เข้าไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่าน และดูตอต้นพะยูง ที่บริเวณป่าช้าด้านทิศตะวันตกหมู่บ้านโต้น หมู่ 5 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเปรียบเทียบท่อนไม้ของกลางที่ตำรวจยึดไว้กับขนาดกับตอต้นพะยูงที่ถูกตัดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

น.ส.ประดิษฐ์ พี่สาวคนโต ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา กล่าวว่า พวกตนสามคนพี่น้องอยากให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้ โดยเฉพาะการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จึงได้มาชี้จุดเกิดเหตุและไปพิสูจน์ของกลางให้เห็นกับตา

น.ส.ประดิษฐ์กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ป่าช้าประจำหมู่บ้านแห่งนี้ พวกตน 3 พี่น้องได้เข้ามาเก็บเศษไม้เล็กๆ ทั้งไม้เก่าและผุขนาดเท่ากับแขนคน และเป็นส่วนปลายของไม้พะยูงที่ถูกคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดไปเมื่อปี 2556 เพื่อนำไปทำฟืนและเผาถ่านใช้ในครัวเรือนเท่านั้น ซึ่งก็ได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่บ้านและหลวงพ่อแล้ว เนื่องจากสงสารที่ครอบครัวของตนและน้องยากจน

ทั้งนี้ จากการสังเกตตอไม้พะยูงที่เหลือให้เห็นเพียงตอผุๆ ติดดิน และมีแขนงเกิดขึ้นเล็กน้อย พบว่าบริเวณโคนลำต้นมีขนาดเท่าฝาบาตรพระเท่านั้น ไม่ใช่ไม้พะยูงใหญ่ซึ่งจะมีส่วนปลายใหญ่เท่าของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาอ้างและทำสำนวนจับเลย

จากนั้นนายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรม ต.คลองขาม พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร กรรมการศูนย์ยุติธรรมตำบลฯ และ 3 พี่น้อง รวมทั้งชาวบ้านที่ให้กำลังใจกว่า 40 คน ได้เดินทางไปที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาของกลาง เพื่อร่วมพิสูจน์ไม้ของกลางกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยให้มีการตรวจวัดปริมาตรไม้ของกลางใหม่

ทั้งนี้ ทันทีที่เห็นกองไม้ของกลางซึ่งมีป้ายระบุจำนวนว่า ไม้พะยูง 10 ท่อน ปริมาตร 0.25 ลูกบาศก์เมตร ไม้ฟืนอีก 1 กอง ปริมาตร 0.20 ลูกบาศก์เมตร ทั้ง 3 พี่น้องต่างตกใจ และยืนยันว่าไม่ใช่ไม้ที่พวกตนเก็บออกมาจากป่าช้าทั้งหมด เพราะวันที่ไปเก็บฟืนออกมานั้นไม่ได้มีท่อนไม้ใหญ่อย่างนี้ เป็นเพียงเศษปลายไม้เล็กๆ แห้งๆ เท่านั้น แต่ของกลางที่เห็นกลับเพิ่มมากขึ้นเป็น 10 ท่อน บางท่อนขนาดเกือบเท่ากับตอต้นพะยูงที่ถูกตัดไปในป่าช้า

นายถนอมกล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม้ของกลางดังกล่าวไม่ใช่ไม้ที่พวกตนสามพี่น้องเก็บออกมาจากป่าช้าแน่นอน พอมาเห็นอย่างนี้ตนรู้สึกงงไปหมดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับไม้ของกลางที่เพิ่มจำนวนและเกินมาอย่างนี้ คงได้แต่วิงวอนให้กระบวนการยุติธรรม ทั้งเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ อัยการ จ.กาฬสินธุ์ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ทำการรื้อคดีนี้ใหม่ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่พวกตนสามพี่น้องนี้ด้วย ซึ่งตอนนี้ไม้รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร นอกจากศูนย์ยุติธรรมตำบล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

ด้านนายพนัส อาษาราช เจ้าหน้าที่ตรวจป่า กล่าวว่า ไม้ของกลางเหล่านี้เดิมมีขนาดเท่าใดตนไม่ทราบ แต่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด ให้ไปรับไม้ของกลางมาเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2558 และทำการตรวจวัดปริมาตรไม้ได้ตามจำนวนที่ระบุ ประเด็นที่ว่าไม้ของกลางจะเพิ่มหรือลดอย่างไรนั้นไม่ทราบ เพราะตรวจวัดจากของกลางที่ไปรับมาจากตำรวจ สภ.ยางตลาด

ขณะที่นายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรม ต.คลองขาม กล่าวว่า เมื่อเห็นความผิดปกตินี้แล้วจึงเป็นเรื่องที่ตนเองก็ยอมรับไม่ได้ในการทำสำนวนของพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด ซึ่งจะได้เตรียมเอกสารร้องขอความเป็นธรรมกับทุกสำนักงานในกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป

นายวิทยาระบุอีกว่า สำหรับคดีนี้ตามที่สืบทราบมาพบว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง โดยผู้ที่แจ้งความกับตำรวจหวังให้สามพี่น้องเป็นแพะรับบาป ซึ่งเท่าที่ทราบอาจจะเป็นความขัดแย้งของกลุ่มผู้นำชุมชน 2 กลุ่ม ซึ่งกำลังตรวจสอบอย่างละเอียด และจะได้แจกแจงรายละเอียดในเอกสารที่จะยื่นต่อกระบวนการยุติธรรมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันที่จะเรียกร้องให้มีการรื้อคดีใหม่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่สามพี่น้องโดยเร็ว และสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นในกระบวนการของทางราชการ เพื่อสร้างความสุขให้ประชาชนผู้รับบริการตามนโยบายรัฐบาล




กำลังโหลดความคิดเห็น