สามพี่น้องกาฬสินธุ์ร้องขอความเป็นธรรมหลังเก็บเศษฟืนเผาถ่านถูกจับมีไม้พะยูง

กาฬสินธุ์ - สามพี่น้องชาวตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้องขอความเป็นธรรม หลังไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่าน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้าม ระบุถูกกลั่นแกล้ง วอนกระบวนการยุติธรรมตรวจสอบการทำสำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ รื้อคดี และคืนความเป็นธรรมให้ชาวบ้าน

วันนี้ (18 ก.ค. 59) ที่โรงอาหารโรงเรียนอนุบาล องค์การบริหารส่วนตำบลคลองขาม ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านโต้น ต.คลองขาม กว่า 40 คน ได้รวมตัวกันร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรม ต.คลองขาม หลังจากเกิดเหตุเพื่อนบ้าน 3 คนพี่น้อง คือ น.ส.ประดิษฐ์ ภูนามูล อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 83 หมู่ 5 บ้านโต้น ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์, นายถนอม ภูนามูล อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และนางทองผุด แจ้งเณร อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ 5 บ้านโต้น ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จับกุมตัวและส่งฟ้องศาลดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2558 โดยมี ร.ต.ประธาน ประไชยโย หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย ม.พัน.14 จ.กาฬสินธุ์ และคณะร่วมรับฟังปัญหา

นายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรม ต.คลองขาม กล่าวว่าได้รับการร้องทุกข์จากสามพี่น้องว่าได้รับความเดือดร้อนหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จับกุมตัวขณะเตรียมกำลังเผาถ่านที่บ้าน ข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากทั้งสามคนไปเก็บเศษไม้จากป่าช้าเก่าของหมู่บ้าน

ผู้เสียหายสามพี่น้อง ต่างยืนยันความบริสุทธิ์ของตน และไม้พะยูงของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้นั้น ล้วนแต่เป็นเศษไม้ขนาดเล็ก เก่าผุ ส่วนต้นพะยูงในป่าช้านั้นถูกขบวนการลักลอบตัดไม้ตัดไปตั้งแต่ปี 2556 แล้ว ซึ่งชาวบ้านเข้าไปเก็บมาทำฟืนและเผาถ่านเท่านั้นไม่ทราบด้วยว่าเป็นไม้พะยูง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารร่วมรับฟังปัญหา และร่วมตรวจสอบเอกสารการทำสำนวนของเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาดเจ้าของคดี

นายวิทยากล่าวต่อว่า จากคำร้องทุกข์และการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบพิรุธหลายประเด็น เริ่มจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด ได้ทำบันทึกการตรวจยึดไม้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2558 เวลา 17.00 น. แต่กลับมาลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีในวันที่ 29 สิงหาคม 2558 จากนั้นวันที่ 4 กันยายน 2558 จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาตรวจสอบวัดปริมาตรไม้และรับไม้ของกลางไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์

นายวิทยากล่าวอีกว่า จะเห็นว่าบันทึกทำสำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาดไม่ต่อเนื่องกัน ประกอบกับคำให้การของผู้เสียหายและพยานแวดล้อม รวมทั้งหลักฐาน ซึ่งเป็นไม้พะยูงของกลางและปริมาตรไม้ที่ระบุในสำนวนขัดแย้งกัน ที่น่าสังเกตคือช่วงระยะ 10 กว่าวัน นับจากวันที่ตรวจยึดถึงวันที่แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำของกลางไปเก็บรักษาเกิดอะไรขึ้น ผิดธรรมชาติของการทำคดี ก่อนจะแจ้งข้อหาต่อสามพี่น้องซึ่งอาจจะได้รับโทษถึงขั้นติดคุก ตนในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรมตำบลฯ จะรวบรวมหลักฐานอุทธรณ์ต่อศาล เพื่อเลื่อนส่งฟ้อง 3 พี่น้อง ขอความเป็นธรรมให้แก่สามพี่น้อง และรื้อคดีนี้ใหม่

ทองผุด แจ้งเณร หนึ่งในสามพี่น้องผู้เดือดร้อน กล่าวว่า กรณีที่พวกตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาดดำเนินคดีครั้งนี้ สร้างความตกใจให้แก่ตนและเพื่อนบ้านมาก เพราะไม่น่าจะเป็นความผิดร้ายแรงถึงกับติดคุก เนื่องจากไม้ของกลางที่นำมาทำฟืนเผาถ่านนั้นเป็นเพียงเศษไม้ เศษปลายไม้ลำเล็กเท่าแขนและมีสภาพเก่าผุ แต่สำนวนของเจ้าหน้าที่กลับระบุว่าเป็นไม้พะยูง 10 ท่อน ปริมาตร 0.25 ลูกบาศก์เมตร โดยผู้ใหญ่บ้านอนุญาตให้พวกตนเข้าไปเอาเศษไม้ในป่าช้าหมู่บ้านมาทำฟืนเผาถ่าน เพราะสงสารว่ามีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ ไม่รู้มาก่อนว่าเศษไม้ที่นำออกมานั้นเป็นไม้ประเภทใด เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นไม้พะยูง ที่ถูกคนร้ายลักลอบเข้าไปตัดและขนย้ายส่วนของลำต้นไปตั้งแต่ปี 2556

ด้านนายถนอม ภูนามูล อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากถูกจับ วันต่อมา ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ นิตุทอน พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด ได้แจ้งให้พวกตน 3 พี่น้องมาที่ สภ.ยางตลาด ซึ่งบอกว่าไม่มีอะไร แค่ไม้ฟืนธรรมดา ให้ลงชื่อรับรองเท่านั้น ด้วยความใจซื่อไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาจึงได้ร่วมกันลงชื่อตามที่บอก

เจ้าหน้าที่ สภ.ยางตลาดได้นัดให้มาลงชื่ออีก 2-3 ครั้ง ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นศาลในข้อหามีไม้พะยูงของกลาง 10 ท่อน โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงขอยื่นประกันตัวเพื่อสืบหาหลักฐาน ก่อนจะถูกยื่นฟ้องอีกครั้งในวันที่ 26 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ตนขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม้พะยูงของกลางนั้นไม่ใช่ของพวกตน ที่ระบุในสำนวนมาจากไหนไม่รู้ เป็นการกลั่นแกล้ง จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมต่อศูนย์ยุติธรรมตำบลและกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ สภ.ยางตลาด ทำสำนวนอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา

ด้าน ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ นิตุทอน พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2558 โดยได้รับแจ้งจากคณะกรรมการหมู่บ้านโต้นว่าผู้ต้องหาทั้งสามรายได้นำไม้ของกลางจากป่าช้ามากองไว้ที่หลังบ้าน 1 กองซึ่งมีขนาดเล็ก สภาพเก่าผุ จึงได้เข้าตรวจสอบ ก่อนนำไปเก็บไว้ที่ สภ.ยางตลาดและแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำไปเก็บรักษา และทราบภายหลังว่าเป็นไม้พะยูงจำนวน 10 ท่อน ส่วนเหตุที่ทำบันทึกล่าช้า เพราะเห็นว่าเป็นปลายไม้ขนาดเล็ก และให้โอกาสชาวบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านตกลงกัน เมื่อตกลงกันไม่ได้ จึงรับแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว