กาฬสินธุ์ - รองปลัดกระทรวงยุติธรรมสั่งการเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบกรณีสามพี่น้องชาวอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกจับข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังออกไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนและเผาถ่าน พร้อมให้การช่วยเหลือ
จากกรณี น.ส.ประดิษฐ์ ภูนามูล อายุ 50 ปี, นายถนอม ภูนามูล อายุ 49 ปี และนางทองผุด แจ้งเณร อายุ 42 ปี ชาว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 3 คนเป็นพี่น้องกัน พร้อมชาวบ้านกว่า 40 คน รวมตัวกันร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมหลังออกไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่าน แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จับกุมในข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งสามคนระบุว่าถูกกลั่นแกล้ง พร้อมขอความช่วยเหลือจากกระบวนการยุติธรรมเพื่อตรวจสอบการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้รื้อคดี คืนความเป็นธรรมตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (21 ก.ค. 59) ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวสันต์ ธนโชติกิตติพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมสงเคราะห์ กระทรวงยุติธรรม นายธิตินัย พาติกบุตร เจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าติดตามตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงกรณี น.ส.ประดิษฐ์ ภูนามูล อายุ 50 ปี นายถนอม ภูนามูล อายุ 49 ปี และนางทองผุด แจ้งเณร อายุ 42 ปี ชาว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สามพี่น้องที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จับกุมในข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากออกไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่านในป่าช้าท้ายหมู่บ้าน โดยมีไพโรจน์ แต่สุวรรณ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้ายุติธรรม จ.กาฬสินธุ์รายงานข้อมูลเบื้องต้น
จากนั้นได้เดินทางเข้าไปสอบถามเรื่องราวของคดีกับ ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ นิตุทอน พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมทั้งลงพื้นที่เข้าตรวจสอบบริเวณป่าช้าหลังหมู่บ้านโต้น ม.5 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดที่สามพี่น้องเข้าไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่าน โดยมีสามพี่น้องและชาวบ้านกว่า 50 คนพาเข้าไปชี้จุดที่เก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่าน
ทั้งนี้ ขณะที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด พาคณะไปตรวจสอบจุดที่สามพี่น้องเก็บเศษไม้นั้น ปรากฏว่าชาวบ้านที่มาให้กำลังใจสามพี่น้องต่างตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากไม่พอใจที่ตำรวจนำคณะไปตรวจสอบคนละจุดกับที่สามพี่น้องไปเก็บเศษไม้ จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกลับไปตรวจสอบใหม่อีกครั้งซึ่งห่างจากจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปตรวจประมาณ 50 เมตร ตามที่ชาวบ้านยืนยันและตามเอกสารรายงานการประชุมของคณะกรรมการหมู่บ้าน
นอกจากนี้ยังได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจยึดที่หลังบ้านสามพี่น้องนำฟืนไปกองไว้เพื่อรอเผาถ่านที่หมู่บ้าน และเดินทางเข้าไปตรวจของกลางที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาไม้พะยูงของกลางตามคำสั่งการของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม
นายวสันต์ ธนโชติกิตติพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านสังคมสงเคราะห์กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ และแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกรณีสามพี่น้องชาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ถูกตำรวจ สภ.ยางตลาดจับกุมในข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากออกไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนและเผาถ่าน ตามคำสั่งการของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าทั้งสามพี่น้องถูกกลั่นแกล้งจริงหรือไม่
จากการสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องพบว่าขณะนี้คดีได้ขึ้นสู่ขั้นตอนของศาลแล้ว การตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวเบื้องต้นยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้มากเพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคณะทำงานจะต้องพยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ และนำข้อมูลรายงานไปยังศาล ขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณา หากตรวจสอบพบว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ก็จะมีขั้นตอนดำเนินการต่อไป
ด้านนายถนอม ภูนามูล หนึ่งในสามพี่น้องที่ตกเป็นผู้ต้องหากล่าวว่า จากการที่เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมได้ลงพื้นที่ และตนทั้ง 3 พี่น้องได้ให้ปากคำอย่างใกล้ชิด รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมากที่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าความยุติธรรมในสังคมไทยมีจริง ถึงวันนี้ยังยืนในความบริสุทธิ์ของตนทั้งสามคน
อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรม ตรวจสอบการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ละเอียดอีกครั้ง เพราะขนาดนำเจ้าหน้าที่ยุติธรรมมาชี้จุดเกิดเหตุที่บริเวณป่าช้าซึ่งเป็นตอของไม้พะยูง และจุดที่สามพี่น้องเข้ามาเอาเศษปลายไม้ ยังพาไปชี้จุดคนละแห่ง แล้วอย่างนี้จะหาความยุติธรรมได้ที่ไหน หากกระบวนการยุติธรรมไม่เมตตาพวกเราที่ตกเป็นผู้ต้องหา