กาญจนบุรี - ส.ป.ก.กาญจนบุรี เผยกำลังใจเกินร้อย พร้อมเดินหน้ายึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.ตาม ม.44 จัดสรรให้คนจนที่ตั้งตารอหลังโดนในโลกโชเชียลโจมตี เหตุประกาศมอบใบเกียรติคุณให้กลุ่มบุคคลมอบคืนที่ดินมากกว่า 500 ไร่ด้วยความสมัครใจ ยันไม่เคยรู้จัก “เพียงใจ หาญพาณิชย์” แม่แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มหาเศรษฐีชื่อดังเมืองไทย และศิษย์เอกธรรมกายมาก่อน เผยผู้บังคับบัญชาเข้าใจเจตนา พร้อมแนะคิดจะทำงานใหญ่อย่าเอาเรื่องเล็กมารกสมอง
วันนี้ (17 ก.ค.) นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ฉายามือปราบ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า ตามที่ตนเคยประกาศประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนตอนเปิดศูนย์รับแจ้งการร้องเรียนการบุกรุกที่ดินของ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. จุดเริ่มต้นมาจากกรณีที่ตนเองได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยึดคืนที่ดินวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือบุกรุกที่ จำนวน 931 ไร่ กลับมาสู่ ส.ป.ก.เพื่อจัดให้คนจนตามนโยบายการจัดที่ดินชุมชนของรัฐบาลในรูปสหกรณ์ ว่า หากผู้ครอบครองที่ดินที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือผิดระเบียบในเขตปฏิรูปที่ดินส่งมอบคืนที่ดินด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตนในฐานะปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรียินดีที่จะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 ก.ค.59 ที่ผ่านมา ขณะที่ตน และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ลงพื้นที่เพื่อรังวัดจัดทำข้อมูลแผนที่ของวัดเสือเพื่อนำข้อมูลเสนอ ส.ป.ก.เพื่อจัดสรรให้แก่เกษตรกรที่ยากจน พร้อมทั้งนำป้ายประกาศแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินของ ส.ป.ก. ไปติดตั้งที่ซุ้มหัวเสือทางเข้าหน้าวัด รวมทั้งนำป้ายประกาศไปติดที่หน้าแปลงที่ดิน จำนวน 1,263 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยก หมู่ที่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยก และห่างจากวัดเสือประมาณ 2 กิโลเมตร
โดยเมื่อไปถึงก็พบว่า มีสภาพพื้นที่รกร้างยังไม่มีการปรับสภาพที่ดินให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ในการทำการเกษตรแต่อย่างใด มีป้ายประกาศหน้าแปลงที่ดินแสดงความเป็นเจ้าของปิดเอาไว้ โดยมีกิ่งไม้ปกคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่จึงตัดออกพบข้อความเขียนระบุเอาไว้ว่า “พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของ (น.ส.เพียงใจ หาญพาณิชย์) ผู้บุกรุกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ขณะนั้นตนไม่ทราบด้วยซ้ำว่า น.ส.เพียงใจ นั้นเป็นใคร แต่มารู้ภายหลังเมื่อสื่อมวลชนนำเสนอข่าวผ่านทางเว็บไซต์ของแต่ละสังกัดในวันเดียวกันว่า น.ส.เพียงใจ ก็คือแม่เจ้าของ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” มหาเศรษฐีชื่อดังของเมืองไทย การเสนอข่าวในวันนั้นก็มีบทความที่ตนประกาศว่าจะมอบใบเกียรติคุณให้ผู้ที่ส่งมอบคืนที่ดิน ส.ป.ก.ด้วย
ต่อมา วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.และเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ ร.29 กำลังไปตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.ที่โดนบุกรุก จำนวน 900 ไร่ ที่อยู่ข้างเคียงพื้นที่นางเพียงใจ โดยระหว่างการเข้าดำเนินการก็ได้รับการประสานเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ว่า นางเพียงใจพร้อมด้วยเลขาส่วนตัวมารอพบอยู่ที่ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ต่อ ส่วนตนได้มาพบ นางเพียงใจ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก. จากการพูดคุยตนก็ได้มองจากเจตนาของ นางเพียงใจ ว่า ต้องการมอบคืนพื้นที่ 1,263 ไร่ ให้แก่ ส.ป.ก.ด้วยใจอันบริสุทธิ์ หลังจากพูดคุยก็ได้ทำหนังสือบันทึกคืนให้แก่ ส.ป.ก.โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
การที่ตนเคยประกาศเอาไว้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า หากผู้ครอบครองที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือทำผิดระเบียบ ส.ป.ก.นำที่ดินมาคืน ตนในฐานะ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ก็จะมอบเกียรติคุณให้นั้น ตนมิได้หมายถึง นางเพียงใจ แต่เพียงผู้เดียว แต่หมายถึงทุกกลุ่มทุกคนที่ครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ผิดระเบียบทั้งหมด หากมีความบริสุทธิ์ใจตนเองก็จะมอบเกียรติคุณให้แก่ผู้คืนที่ดิน
“การที่ผมประกาศดังกล่าวก็เกิดขึ้นก่อนที่จะมีประกาศ คสช.ที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เรื่องมาตรการการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 44 และ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ได้เริ่มติดประกาศยึดคืนที่ดินตามคำสั่งดังกล่าวพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา”
นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันต่อสื่อมวลชน และประชาชนว่า การมอบใบเกียรติคุณนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับองค์กร และผู้บังคับบัญชาแต่ประการใด และตนเห็นว่าการที่ผู้มาคืนที่ดินก็จะเป็นการลดภาระ และขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิรูปที่ดินลงได้มากทั้งด้านเวลา และค่าใช้จ่าย ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และหน่วยงาน หน่วยราชการ โดยเฉพาะ ส.ป.ก.เอง และการมอบเกียรติคุณก็ถือเป็นการขอบคุณ และชื่นชมในทางแพ่ง ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับข้อกฎหมายอื่นๆ นั้น ส.ป.ก กาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ส.ป.ก.ส่วนกลาง เพื่อพิจารณาสั่งการไปแล้ว
ทั้งนี้ ตนยังได้รับกำลังใจจากครอบครัว ผู้บังคับบัญชา เพื่อนข้าราชการ ตลอดจนประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่ซึ่งให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ดังนั้น กำลังใจที่ได้มาทำให้ตนต้องปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการอย่างตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้ประชาชนที่กำลังรอความหวังว่าจะได้ที่ดินเป็นของตนเองอยู่ต้องผิดหวัง และตนจะปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเข้มแข็งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เป็นไปด้วยความเข้มแข็ง และซื่อตรง การที่ นายวัชรินทร์ ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ขณะแถลงข่าวเปิดศูนย์รับร้องเรียนนายทุนบุกรุกที่ ส.ป.ก. ว่า จะมอบใบประกาเกียรติคุณให้แก่กลุ่มบุคคลที่ยินดีมอบคืนที่ดิน ส.ป.ก.ที่ครอบครองมากกว่า 500 ไร่ ให้แก่ ส.ป.ก.เพื่อนำไปจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้นั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
แต่ถือว่าได้ผลเกินคาด เพราะหลังจากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไป นางเพียงใจ หาญพาณิชน์ อายุ 92 ปี มารดาเจ้าของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ นักธุรกิจแสนล้านก็ได้ส่งมอบที่ดินเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่คืนให้แก่ ส.ป.ก.ทันที การตั้งใจมอบใบประกาศให้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องต่อการดำเนินคดีแต่อย่างใด และถือว่าคนระดับ นางเพียงใจ มหาเศรษฐีแสนล้านเป็นบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้นจากทั้งประเทศที่กล้ามาแสดงตัวด้วยตนเอง และส่งมอบคืนที่ดินแปลงดังกล่าวคืนให้แก่ ส.ป.ก.
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวออกไปเกี่ยวกับการประกาศมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ นางเพียงใจ ทำให้ นายวัชรินทร์ ถูกโจมตีจากนักเลงคีย์บอร์ดที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก แต่ก็ได้รับกำลังใจจากชาวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะประชาชนที่ต้องการมีที่ดินทำกิน ซึ่งการที่ นางเพียงใจ รีบส่งมอบที่ดินแปลงดังกล่าวให้จะทำให้ ส.ป.ก.กาญจนบุรี จัดแปลงที่ดินมอบให้แก่ประชาชนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
วันนี้ (17 ก.ค.) นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ฉายามือปราบ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า ตามที่ตนเคยประกาศประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนตอนเปิดศูนย์รับแจ้งการร้องเรียนการบุกรุกที่ดินของ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. จุดเริ่มต้นมาจากกรณีที่ตนเองได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยึดคืนที่ดินวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือบุกรุกที่ จำนวน 931 ไร่ กลับมาสู่ ส.ป.ก.เพื่อจัดให้คนจนตามนโยบายการจัดที่ดินชุมชนของรัฐบาลในรูปสหกรณ์ ว่า หากผู้ครอบครองที่ดินที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือผิดระเบียบในเขตปฏิรูปที่ดินส่งมอบคืนที่ดินด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตนในฐานะปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรียินดีที่จะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 ก.ค.59 ที่ผ่านมา ขณะที่ตน และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ลงพื้นที่เพื่อรังวัดจัดทำข้อมูลแผนที่ของวัดเสือเพื่อนำข้อมูลเสนอ ส.ป.ก.เพื่อจัดสรรให้แก่เกษตรกรที่ยากจน พร้อมทั้งนำป้ายประกาศแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินของ ส.ป.ก. ไปติดตั้งที่ซุ้มหัวเสือทางเข้าหน้าวัด รวมทั้งนำป้ายประกาศไปติดที่หน้าแปลงที่ดิน จำนวน 1,263 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยก หมู่ที่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยก และห่างจากวัดเสือประมาณ 2 กิโลเมตร
โดยเมื่อไปถึงก็พบว่า มีสภาพพื้นที่รกร้างยังไม่มีการปรับสภาพที่ดินให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ในการทำการเกษตรแต่อย่างใด มีป้ายประกาศหน้าแปลงที่ดินแสดงความเป็นเจ้าของปิดเอาไว้ โดยมีกิ่งไม้ปกคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่จึงตัดออกพบข้อความเขียนระบุเอาไว้ว่า “พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของ (น.ส.เพียงใจ หาญพาณิชย์) ผู้บุกรุกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ขณะนั้นตนไม่ทราบด้วยซ้ำว่า น.ส.เพียงใจ นั้นเป็นใคร แต่มารู้ภายหลังเมื่อสื่อมวลชนนำเสนอข่าวผ่านทางเว็บไซต์ของแต่ละสังกัดในวันเดียวกันว่า น.ส.เพียงใจ ก็คือแม่เจ้าของ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” มหาเศรษฐีชื่อดังของเมืองไทย การเสนอข่าวในวันนั้นก็มีบทความที่ตนประกาศว่าจะมอบใบเกียรติคุณให้ผู้ที่ส่งมอบคืนที่ดิน ส.ป.ก.ด้วย
ต่อมา วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.และเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ ร.29 กำลังไปตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.ที่โดนบุกรุก จำนวน 900 ไร่ ที่อยู่ข้างเคียงพื้นที่นางเพียงใจ โดยระหว่างการเข้าดำเนินการก็ได้รับการประสานเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ว่า นางเพียงใจพร้อมด้วยเลขาส่วนตัวมารอพบอยู่ที่ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ต่อ ส่วนตนได้มาพบ นางเพียงใจ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก. จากการพูดคุยตนก็ได้มองจากเจตนาของ นางเพียงใจ ว่า ต้องการมอบคืนพื้นที่ 1,263 ไร่ ให้แก่ ส.ป.ก.ด้วยใจอันบริสุทธิ์ หลังจากพูดคุยก็ได้ทำหนังสือบันทึกคืนให้แก่ ส.ป.ก.โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
การที่ตนเคยประกาศเอาไว้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า หากผู้ครอบครองที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือทำผิดระเบียบ ส.ป.ก.นำที่ดินมาคืน ตนในฐานะ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ก็จะมอบเกียรติคุณให้นั้น ตนมิได้หมายถึง นางเพียงใจ แต่เพียงผู้เดียว แต่หมายถึงทุกกลุ่มทุกคนที่ครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ผิดระเบียบทั้งหมด หากมีความบริสุทธิ์ใจตนเองก็จะมอบเกียรติคุณให้แก่ผู้คืนที่ดิน
“การที่ผมประกาศดังกล่าวก็เกิดขึ้นก่อนที่จะมีประกาศ คสช.ที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เรื่องมาตรการการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 44 และ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ได้เริ่มติดประกาศยึดคืนที่ดินตามคำสั่งดังกล่าวพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา”
นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันต่อสื่อมวลชน และประชาชนว่า การมอบใบเกียรติคุณนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับองค์กร และผู้บังคับบัญชาแต่ประการใด และตนเห็นว่าการที่ผู้มาคืนที่ดินก็จะเป็นการลดภาระ และขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิรูปที่ดินลงได้มากทั้งด้านเวลา และค่าใช้จ่าย ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และหน่วยงาน หน่วยราชการ โดยเฉพาะ ส.ป.ก.เอง และการมอบเกียรติคุณก็ถือเป็นการขอบคุณ และชื่นชมในทางแพ่ง ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับข้อกฎหมายอื่นๆ นั้น ส.ป.ก กาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ส.ป.ก.ส่วนกลาง เพื่อพิจารณาสั่งการไปแล้ว
ทั้งนี้ ตนยังได้รับกำลังใจจากครอบครัว ผู้บังคับบัญชา เพื่อนข้าราชการ ตลอดจนประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่ซึ่งให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ดังนั้น กำลังใจที่ได้มาทำให้ตนต้องปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการอย่างตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้ประชาชนที่กำลังรอความหวังว่าจะได้ที่ดินเป็นของตนเองอยู่ต้องผิดหวัง และตนจะปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเข้มแข็งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เป็นไปด้วยความเข้มแข็ง และซื่อตรง การที่ นายวัชรินทร์ ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ขณะแถลงข่าวเปิดศูนย์รับร้องเรียนนายทุนบุกรุกที่ ส.ป.ก. ว่า จะมอบใบประกาเกียรติคุณให้แก่กลุ่มบุคคลที่ยินดีมอบคืนที่ดิน ส.ป.ก.ที่ครอบครองมากกว่า 500 ไร่ ให้แก่ ส.ป.ก.เพื่อนำไปจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้นั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
แต่ถือว่าได้ผลเกินคาด เพราะหลังจากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไป นางเพียงใจ หาญพาณิชน์ อายุ 92 ปี มารดาเจ้าของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ นักธุรกิจแสนล้านก็ได้ส่งมอบที่ดินเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่คืนให้แก่ ส.ป.ก.ทันที การตั้งใจมอบใบประกาศให้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องต่อการดำเนินคดีแต่อย่างใด และถือว่าคนระดับ นางเพียงใจ มหาเศรษฐีแสนล้านเป็นบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้นจากทั้งประเทศที่กล้ามาแสดงตัวด้วยตนเอง และส่งมอบคืนที่ดินแปลงดังกล่าวคืนให้แก่ ส.ป.ก.
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวออกไปเกี่ยวกับการประกาศมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ นางเพียงใจ ทำให้ นายวัชรินทร์ ถูกโจมตีจากนักเลงคีย์บอร์ดที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก แต่ก็ได้รับกำลังใจจากชาวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะประชาชนที่ต้องการมีที่ดินทำกิน ซึ่งการที่ นางเพียงใจ รีบส่งมอบที่ดินแปลงดังกล่าวให้จะทำให้ ส.ป.ก.กาญจนบุรี จัดแปลงที่ดินมอบให้แก่ประชาชนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น