xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.มทบ. 44 ฉุนพื้นที่เกียร์ว่างทำงานช้า ตั้งกรรมตรวจรีสอร์ตเกาะพยามเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชุมพร - ผบ.มทบ.44 เดินหน้าใช้อำนาจคำสั่ง คสช.ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ต บังกะโล นับ 100 แห่ง บนเกาะพยาม “มัลดีฟส์เมืองไทย” สร้างในที่ ส.ป.ก.ป่าสงวนแห่งชาติ หลังพื้นที่ใส่เกียร์ว่างทำงานล่าช้า

จากกรณี พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 รับผิดชอบพื้นที่ชุมพร-ระนอง สั่งการให้ชุด ฉก.บก.ควบคุม มทบ.44 ลงพื้นที่เกาะพยาม หรือที่เรียกกันว่า “มัลดีฟส์เมืองไทย” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังตำบลเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง ตรวจสอบพบกลุ่มนายทุนคนไทย และต่างชาติสร้างรีสอร์ต บังกะโล บ้านพักตากอากาศกว่า 100 แห่ง อยู่ในเขตที่ดิน ส.ป.ก. เขตป่าสงวน ป่าชายเลน และมีผู้มีอิทธิพลนำที่ดินของรัฐไปจัดสรรออกโฉนดชุมชนขายให้ผู้อื่น ตามที่นำสนอต่อเนื่องนั้น

วันนี้ (1 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 ได้เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมประชุมแก้ไขปัญหาเกาะพยาม ครั้งที่ 2 โดยมี พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รรท.ผบก.ภ.จ.ระนอง นายสุริยัณห์ จิรสัตย์สุนทร ปลัดจังหวัดระนอง นาศุภชัย สุกใส ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคใต้ กรมป่าไม้ นายลักษณ์ แก้วมณี ปฏิรูปที่ดินจังหวัดระนอง นายณัฐพล อ๋องสุวรรณ หน.หน่วย รน.8 นางอำภา แก้วยาวนางอำภา นายก อบต.เกาะพยาม นายปริญญา สกุลทอง กำนันตำบลเกาะพยาม และหน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องกว่า 30 คน ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระนอง

โดยมี พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว หน.ฉก.บก.ควบคุม มทบ.44 บรรยายสรุปผลการลงพื้นที่เกาะพยามเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงกรณีการบุกรุกสร้างรีสอร์ต บังกะโล บ้านพักตากอากาศส่วนใหญ่เป็นของนายทุนนอกพื้นที่ และชาวต่างชาติ ในที่ดิน ส.ป.ก. เขตป่าสงวน และป่าชายเลน มากกว่า 100 แห่ง ซึ่งผิดกฎหมายทั้งหมด ทั้งมีการเปลี่ยนมือขายสิทธิครอบครองที่ดินทำกินซ้ำซ้อน ผู้มีอิทธิพลจัดสรรที่ดินออกโฉนดขุมชนผิดกฎหมายขายให้แก่นายทุน และชาวบ้าน และปัญหาสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ

พล.ต.อุดมวิทย์ ได้สอบถามความคืบหน้าจากมติที่ประชุมครั้งที่ผ่านมา เรื่องการแต่งตั้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้าเป็นคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจสอบแก้ไขปัญหาเกาะพยามเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน โดยมอบหมายให้หน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ระนอง เป็นประธานดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 พ.ย.59 และลงนามคำสั่งโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง แต่ปรากฏว่า ไม่มีการดำเนินการใดๆ ตามมติที่ประชุมดังกล่าว และไม่มีผู้แทน ทสจ.ระนอง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

พล.ต.อุดมวิทย์ กล่าวว่า ก่อนประชุมตนได้เข้าพบกับ พล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ซึ่งได้ติดตามการทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินบนเกาะพยามมาโดยตลอด ขอให้ตนทำงานอย่างตรงไปตรงมา และทุกครั้งที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ และการประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขอให้ตนสรุปรายงานส่งให้กับรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรียุติธรรม รัฐมนตีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้รับทราบทุกครั้งด้วย และตนได้ประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ให้ลงมาสอบสวนทำคดีดังกล่าวบนเกาะพยามด้วย

พล.ต.อุดมวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น เพื่อไม่ให้การทำงานต้องหยุดชะงัก ตนจึงขอใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/59 แต่งตั้งคณะกรรมแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินบนเกาะพยาม โดยให้มีหน่วยงานหลักเป็นเจ้าภาพ คือ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.)ระนอง สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัด (ส.ป.ก.) ระนอง ป่าไม้จังหวัดระนอง สำนักงานป่าชายเลนจังหวัดระนอง และชุด ฉก.แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งตนจะออกคำสั่งให้เสร็จภายใน 2-3 วันนี้

โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะลงพื้นที่เกาะพยามเพื่อดำเนินการ (1.) ตรวจจับพิกัดรังวัดยืนยันแนวเขตแยกประเภทที่ดินจุดใดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และเขตป่าชายเลน ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน (2.)ให้ตรวจสอบสภาพแปลงที่ดิน เอกสารการครอบครองของรีสอร์ต บังกะโล บ้านพักตากอากาศทั้งหมดเพื่อแยกประเภทที่ดิน (3) แกะปัญหาที่มาของการครอบครองที่ดิน และปัญหาอื่นๆ รวมถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพล ส่วนกรณีผู้มีอิทธิพลออกโฉนดชุมชนขายให้ตรวจสอบรวมรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

“ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ตน และผู้เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่เกาะพยาม พบกับชาวบ้าน และผู้ประกอบการโดยนัดกันที่ห้องประชุมโรงเรียนเกาะพยาม เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงการที่เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบต่างๆ ไม่ต้องตกใจ เปิดธุรกิจบริการนักท่องเที่ยวได้ตามปกติอย่าไปเชื่อข่าวลือผู้ไม่หวังดีว่าจะมีการปิดเกาะทำให้เกิดผลกระทบการท่องเที่ยว เราเข้าไปแก้ปัญหาให้แก่ทุกคน ไม่ใช่เข้าไปสร้างปัญหา” พล.ต.อุดมวิทย์ กล่าว

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น