กาญจนบุรี - สัตวแพทย์ชื่อดัง ควงทนายส่วนตัวเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี กรณีเสือหาย รวมทั้งพบซากสัตว์วัดป่าหลวงตาบัวฯ ทนายชี้หมอสมชัย ยังไม่เคยถูกฟ้องคดีอาญาแม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย.) นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษชัยมงคล อดีตนายสัตวแพทย์ประจำวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความส่วนตัว เข้าพบ พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชาตรี ศรีบุญ ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ อินทกรอุดม รอง ผกก.สอบสวน สภ.ไทรโยค ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี
ทั้งนี้ เพื่อให้ปากคำต่อคณะกรรมการฝ่ายสอบสวน กรณีที่นายสัตวแพทย์สมชัย ออกมาเปิดโปงว่าเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลเพศผู้ ชื่อดาวเหนือ อายุ 7 ปี เสือเพศผู้ ชื่อฟ้าคราม 3 อายุ 3 ปี และเสือเพศผู้ ชื่อแฮปปี้ 2 อายุ 3 ปี ถูกคนร้ายขโมยออกไปจากเกาะเสือ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 20 และคืนวันที่ 25 ธ.ค.57 ซึ่งการเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ นายสัตวแพทย์สมชัย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่มอบหมายให้ นายสุชพงศ์ ทนายความส่วนตัวเป็นผู้ให้ข้อมูลแทน
นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความเปิดเผยว่า วันนี้ตน และนายสัตวแพทย์สมชัย ได้มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนกรณีเสือหายไป จำนวน 3 ตัว รวมทั้งคดีเกี่ยวเนื่อง และพัวพันระหว่างที่มีการขนย้ายเสือโคร่งของกลาง จำนวน 137 ตัว ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.ถึงวันที่ 4 มิ.ย. ส่วนเรื่องรายละเอียดอย่างอื่นก็คงเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะต้องเป็นผู้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหากต้องการ
จากการปรึกษากับคุณหมอก็ได้ตกลงกันว่า ต้องการที่จะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำพยานที่เป็นอาสาสมัครเข้ามาเลี้ยงเสือชาวอังกฤษ ที่ออกมาให้ข่าวเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากอาสาสมัครคนดังกล่าวทราบดีว่าเสือนั้นหายไปจริง ซึ่งตรงนี้ในวิธีพิจารณาคดีสามารถสืบพยานเอาไว้ล่วงหน้าได้ และจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีด้วย ส่วนกรณีที่ทางวัดพาดพิงหมอสมชัย ในหลายประเด็น ซึ่งในประเด็นนี้ได้คุยกันแล้วว่าเราจะไม่โต้แย้งทางสื่อ เพราะมันเกี่ยวกับการให้รายละเอียดต่อพนักงานสอบสวน
แต่ก็มีข้อสังเกตในหลายๆ ด้าน เช่น จุดที่พบซากลูกเสือ จำนวน 40 ซาก ที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ภายในห้องเย็น โดยเมื่อเดือน เม.ย.58 ได้เข้าไปตรวจสอบจุดดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ขณะนั้นก็ไม่ได้พบซากลูกเสือทั้ง 40 ซากแต่อย่างใด
ส่วนกรณีพบซากลูกเสือที่ถูกดองเอาไว้ในขวดโหล 30 ตัว และซากสัตว์ชนิดอื่นๆ ตรงนี้คุณหมอก็ยังไม่พบเห็น หากเห็นแล้วคุณหมอก็คงจะสามารถชี้แจงได้ว่าเป็นซากอะไรบ้าง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวของหมอเองก็ดี หรือคณะกรรมการที่ถูกทางวัดห้ามไม่ให้เข้าไปภายใน ซึ่งเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อทางวัดมาตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.58 ก็เป็นเวลาประมาณปีเศษ ดังนั้น รายละเอียดตรงนี้เราจึงไม่รู้ ซึ่งอะไรตอบได้เราก็จะตอบ ที่เราตอบไม่ได้จะต้องขอดูรายละเอียดก่อนเราจึงจะตอบ
ส่วนกรณีที่ถามว่า ที่ทางวัดพาดพิงมาจะฟ้องกลับหรือไม่ ตรงนี้ต้องขอดูรายละเอียดเสียก่อน ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ใช่กรณีการโต้แย้งกัน หรือการทะเลาะเบาะแว้ง หรือหมิ่นประมาททั่วไป แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องต่อชาติ และศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยถ้าหากมองแค่ผิวเผินก็จะมองว่าการที่เสือหายไป 3 ตัวเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเหมือนทรัพย์สินหายไปเท่านั้น
แต่อย่าลืมว่าทรัพย์สินเหล่านี้มันคือทรัพย์สินของแผ่นดิน ขณะเดียวกัน เสือทั้ง 3 ตัว ได้หายออกไปจากพื้นที่ทางศาสนา เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ส่วนการกระทบกระทั่งกันจนทำให้มีผลเสียหายนั้นในส่วนนี้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวจึงค่อยมาว่ากันในภายหลัง
สำหรับเอกสาร และหลักฐานต่างๆ ทางเราได้มอบให้แก่กรมอุทยานฯ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.58 หลังจากนั้นวันที่ 22 เม.ย.58 ก็ได้มีการประชุมหารือกันที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทาง คุณอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ใส่ใจในเรื่องนี้ทำให้คลี่คลายลงไปได้ในระดับหนึ่ง
ถามว่ามีการฟ้องร้องกันไปมาคุณหมอจะหนักใจหรือไม่นั้นเกี่ยวกับเรื่องคดีอาญา ซึ่งจริงๆ แล้วที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์สมชัย ยังไม่เคยถูกฟ้องมาก่อนเลย ทั้งๆ ที่มีการพูดจากันอยู่ด้วยว่า ทำไมไม่มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อฟ้องหมอในคดี ซึ่งหากมีการฟ้องเมื่อไหร่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าแต่ละฝ่ายจะได้นำหลักฐานที่ตนมีอยู่เข้ามาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำไป