xs
xsm
sm
md
lg

อดีต ส.ส.ทรท.โผล่พร้อมทนายวัดป่าหลวงตาบัว ยัน “หลวงตาจันทร์” ไม่เกี่ยวข้องต่อซากสัตว์ป่าทุกกรณี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - อดีต ส.ส.ทรท.พร้อมทนายความวัดป่าหลวงตาบัวฯ กาญจนบุรี แถลงยันหลวงตาจันทร์ ไม่เกี่ยวข้องต่อซากสัตว์ป่าทุกกรณี ชี้กรมอุทยานฯ ใช้อำนาจเถื่อนบุกยึดเสือ แนะ จนท.ตามหาอดีตหมอให้เจอ พร้อมสอบสวนเรื่องเสือหาย และใครนำไมโครชิปมาคืนให้ เชื่อหากทำได้เรื่องกระจ่าง



ความคืบหน้ากรณีระหว่างวันที่ 30 พ.ค. ถึงวันที่ 4 มิ.ย.59 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อนุมัติหมายค้น ที่ มค 432/2559 ให้กับผู้ร้องขอ คือ นายสินชัย เอกทรัพย์สกุล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อทำการตรวจค้นวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน และมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งมี พระสุทธิสารเถร เป็นเจ้าอาวาส และประธานมูลนิธิ และนายอธิธัช ศรีมณี ผู้ดูแล

คณะเจ้าหน้าที่นำโดย นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการขนย้ายเสือของกลาง จำนวน 137 ตัว ไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายเสือไปแล้ว จำนวน 10 ตัว รวมเป็นเสือของกลางตามบัญชี จำนวน 147 ตัว

ขณะเดียวกัน คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบซากลูกเสือถูกแช่แข็งเอาไว้ในห้องเย็น จำนวน 40 ซาก ซากหมี 1 ซาก ต่อมา พบซากลูกเสือดองอยู่ในขวดโหลอีก 30 ซาก ซากหนังเสือโคร่งเต็มตัว จำนวน 2 ซาก รวมทั้งตะกรุดที่ทำจากหนังเสือร่วม 2,000 ชิ้น และซากสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง และคณะเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย เป็นพระลูกวัด 3 รูป และฆราวาส 2 คน นอกจากนี้ คณะเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบการครอบครองที่ดินของวัดพบว่า มีการบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 931-0-83 ไร่ ซึ่ง ส.ป.ก.ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่บริเวณหน้าประตูเหล็กด่านเก็บตั๋วเข้าชมเสือโคร่งวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายศิริ หวังบุญเกิด อดีด ส.ส.พรรคไทยรักไทย กทม. อดีตกรรมการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอนุกรรมการสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นตัวแทนพระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

เปิดแถลงข่าว กรณี นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมกำลังนำหมายค้นมาขนย้ายเสือโคร่งของกลาง จำนวน 147 ตัว รวมทั้งการตรวจค้นพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดต่างๆ ออกไปจากวัด ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.ถึง 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ร่วมแถลงท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งชาวไทย และต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ ร.29 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคอยสังเกตการณ์

นายศิริ หวังบุญเกิด แถลงข่าวในฐานะตัวแทนพระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ ว่า จากข่าวที่ออกไปปัจจุบันทำให้วัดป่าหลวงตามหาบัวฯ มันเปรียบเสมือนซ่องโจร และกลายเป็นสถานที่ค้าสัตว์ป่าไปแล้ว ผมต้องกราบเรียนสื่อมวลชนทั้งหลายว่า ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ตามที่เป็นข่าว ข่าวที่ออกนั้นไปทุกอย่างไปลงที่พระอาจารย์ทั้งหมด

เหตุการณ์เริ่มแรกคือ อดีตนายสัตวแพทย์สมชัย ที่เคยดูแลเสือที่วัดป่าแห่งนี้ และดูแลเสืออยู่ที่วัดมานานถึง 17 ปี และเป็นผู้รับฝากเสือตั้งแต่มีอยู่ 6-7 ตัว เมื่อปี 44 ซึ่งเสือจำนวนดังกล่าวเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน และเสือทั้งหมดเป็นเสือที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีอยู่วันหนึ่งมีคนไปร้องเรียนที่กรมอุทยานฯ บอกว่า เสือหายไป 3 ตัว และมีคนเอาไมโครชิปของเสือทั้ง 3 ตัวมาคืนให้แก่หมอสมชัย โดยหมอสมชัย ได้นำไมโครชิปของเสือทั้ง 3 ตัวไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ซึ่งการเอาไมโครชิปออกมา นั่นแสดงว่า เสือนั้นต้องตายไปแล้ว และกรมอุทยานฯ ก็รับลูกต่อจากหมอสมชัย แล้วเข้ามาจับเพื่อยึดเสือที่มีอยู่

ทำไมกรมอุทยานฯ จึงไม่นำ หมอสมชัย ผู้ดูแลเสือในขณะนั้นไปดำเนินคดี และให้ไปตามหาคนที่นำไมโครชิปมาให้หมอสมชัย ทุกวันนี้ก็ยังมีการพูดกันลอยๆ ว่า เสือหาย แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ตามข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งหาคนที่นำไมโครชิปมาคืนให้หมอสมชัย จากนั้นก็สืบสวนหาตัวบุคคลที่นำเสือไปถึงจะถูกต้อง เมื่อทราบก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อบุคคลนั้น เพราะเสือที่มีอยู่หลวงตาไม่รู้หรอกว่าเสือมีกี่ตัว ยกเว้นจะได้รับการรายงานจากสัตวแพทย์ที่รับผิดชอบ ซึ่งสัตวแพทย์แจ้งมาว่า เสือมีจำนวนเท่าไหร่ หลวงพ่อก็ต้องเชื่อตามนั้น ส่วนการดองเสือหลวงพ่อก็ไม่ได้เป็นคนทำ คนที่ทำคือ สัตวแพทย์เท่านั้น ต้องไปถามสัตวแพทย์เท่านั้น

และทุกวันนี้กรมอุทยานฯ ได้นำหมายค้นมาค้นที่วัด และมีการจับเสือของกลางซึ่งเป็นของกรมอุทยานฯ เอง นั่นหมายถึงกรมอุทยานฯ ได้มาจับเสือซึ่งเป็นทรัพย์สินของตนเอง มันเป็นคดีแพ่ง และไม่เกี่ยวข้องต่อ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แล้ว แต่กรมอุทยานฯ กลับนำกำลังมาบังคับยึดเสือไป ผมถามว่าคุณมีอำนาจอะไร ดูกฎหมายมาถูกต้องหรือเปล่า

เรื่องถัดมาคือ การที่มีข่าวว่าที่วัดแห่งนี้เป็นเส้นทางสำหรับการค้าเสือในตลาดมืด ตรงนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไร ใครจะเป็นคนทำ เพราะที่นี่เป็นวัด มากล่าวหากันลอยๆ อย่างนี้ได้อย่างไร ถามว่าจะมีการฟ้องร้องกันไหม ตอบว่ามันเร็วเกินไปที่จะดำเนินการอย่างนั้น เพราะทุกวันนี้ทางวัดต้องกระเสือกกระสนไปหาอาหารมาให้สัตว์ที่ยังคงเหลืออยู่ภายในวัดได้กิน

มีผู้สื่อข่าวเคยถามผมว่า การที่หมอสมชัย ดำเนินการเช่นนี้ทำให้วัดพ่ายแพ้ใช่ไหม ตอบได้เลยว่า ไม่ได้พ่ายแพ้ แต่การพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นการพ่ายแพ้ของรัฐบาล ที่มีคนคิดอย่างนี้ และทำอย่างนี้ การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่มาจากศาล แต่มาจากการกระทำของอำนาจเถื่อน ขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยลงข่าวตรงนี้ให้ด้วยว่ามันเป็นอำนาจเถื่อนที่มาเอาเสือไป แล้วจะมาโยนความผิดให้แก่หลวงพ่อ ส่วนเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า ใครเป็นผู้บุกรุกก็ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายไป

ด้าน นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนาย ได้ตอบคำถามต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีการค้นพบตะกรุด และซากหนังเสือว่า ของทั้งหมดไม่ใช่ของหลวงพ่อ แต่เป็นของคนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และผู้ที่ถูกจับกุมก็เป็นคนทำขึ้นมาเอง โดยเก็บไว้ในห้องพักของตนเอง แต่เมื่อมีคณะเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นก็เลยเกิดความกลัว จึงได้ขนย้ายไปเก็บไว้บนกุฏิของหลวงพ่อ เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่คงไม่กล้าขึ้นไปตรวจค้นบนกุฏิ

แต่มาภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ปูพรมตรวจค้นกุฏิทั้งหมด ด้วยความกลัวผู้ที่ถูกจับกุมจึงไปขนตะกรุด และซากหนังเสือที่ถูกตรวจยึดขึ้นไปไว้ที่รถยนต์กระบะแล้วขับออกไป โดยนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นรถไปด้วยโดยที่ไม่รู้ว่า มีซากสัตว์เหล่านั้นอยู่ ซึ่งหลวงพ่อไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อซากสัตว์เหล่านั้นเลย

ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนมีการแถลงข่าว พระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้นั่งรถกอล์ฟออกมาวนเวียนอยู่ที่ประตูด้านในใกล้กับจุดที่ใช้สำหรับแถลงข่าว พร้อมทั้งโปรยอาหารให้แก่สัตว์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีลูกศิษย์วัดเป็นคนขับให้ โดยขับวนเวียนไปมาประมาณ 3 รอบ จากนั้นก็ขับเข้าไปภายในทันที ซึ่งการกระทำดังกล่าวคาดว่า หลวงตาจันทร์ คงต้องการให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพเพื่อให้นำเสนอข่าวให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ยังคงปักหลักอยู่ภายในวัด ไม่ได้หนีไปไหน และหลังจากยุตติการแถลงข่าว ก็ได้นั่งรถกอล์ฟออกมาที่เดิม ซึ่งสื่อมวลชนต่างกรูเข้าไปถ่ายภาพ แต่ครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานนักก็กลับเข้าไปภายในวัดตามเดิม

โดยหลังจากที่ นายศิริ หวังบุญเกิด และนายสายหยุด เพ็งบุญชู ยุตติการแถลงข่าว แล้วเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัด ซึ่งนายศิริ กับนายสายหยุด ก็ได้สลับกันตอบคำถามอย่างต่อเนื่อง ต่างก็ยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด พระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกกรณี และจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีการนมัสการหลวงพ่อไปสอบปากคำแต่อย่างใด และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตามหาอดีตนายสัตวแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลเสือของกลางทั้งหมด มาสอบสวนว่า เสือที่หายไป 3 ตัว หายไปได้อย่างไร แล้วไมโครชิปของเสือทั้ง 3 ตัวใครเป็นคนเอามาคืนให้ และนอกจากการสอบสวนเรื่องเสือที่หายไปแล้ว ขอให้สอบสวนว่า การที่นายสัตวแพทย์คนดังกล่าวดองลูกเสือโคร่งไว้ในขวดโหลนั้น ดองไว้เพื่ออะไร ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สอบสวนอดีตหมอที่ดูแลเสืออย่างแท้จริงก็จะทำให้สังคมได้รู้ข้อเท็จจริงอย่างแน่นอน

และนายศีริ หวังบุญเกิด ยังได้กล่าวเอาไว้ตอนหนึ่งว่า กรมอุทยานฯ กำลังร่วมมือกับองค์กรต่างชาติองค์กรหนึ่งเพื่อนำเสือโคร่งของกลางไปเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดราชบุรีอีกด้วย

**เผยรายชื่อ คณะกรรมการมูลนิธิวัดป่าฯ

สำหรับคณะกรรมการบริหารของมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มีดังนี้
1.พระวิสุทธิสารเถร (นายภูสิต เทียมสิน) ประธานกรรมการมูลนิธิ
2.พระจักรกฤษณ์ สณหกิตติโก (นายจักรกฤษณ์ อภิสิทธิพงษากุล) กรรมการ/เลขานุการมูลนิธิ
3.พระตรีรัตน์ อาภาธโร (นายตรีรัตน์ สุขเขียว)กรรมการมูลนิธิ
4.พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ภักดิ๋จรุง รองประธานกรรมการมูลนิธิ คนที่ 1
5.พ.อ.วิวัฒน์ หงส์บันดาลสุข รองประธานกรรมการมูลนิธิ คนที่ 2
6.นายธงชัย สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง รองประธานกรรมการมูลนิธิ คนที่ 3
7.พ.ต.ท.วงศ์หิรัญ สุริโยพลกุล รองประธานกรรมการมูลนิธิ คนที่ 4
8.นายวิโรจน์ เศรษฐโชตินันท์ กรรมการมูลนิธิ
9.พ.ต.ท.ตรีโลจะนะ ภัสสุวัส กรรมการมูลนิธิ
10.ร.ต.ต.วิทยา โพธิ์แก้ว กรรมการมูลนิธิ
11.นายเวียงศักดิ์ เปี่ยมสังวาล กรรมการมูลนิธิ
12.นายธนวุฒิ เลี่ยมชาญชัย กรรมการมูลนิธิ
13.น.ส.วิริยาภรณ์ นิยมวิทย์ กรรมการมูลนิธิ
14.นายพงศักดิ์ ไชยแจ่มจันทร์ กรรมการมูลนิธิ
15.นายสมเกียรติ ศักดิ์ผดุงกมล กรรมการมูลนิธิ
16.ร.ต.ต.สมพงษ์ สนธิพันธ์ กรรมการมูลนิธิ
17.นายสุภาพ กอฟัก กรรมการมูลนิธิและเหรัญญิก

ได้รับการอนุญาตจัดตั้งมูลนิธิเมื่อ วันที่ 17 กันยายน 2558





กำลังโหลดความคิดเห็น