ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ราชบัณฑิตยสภา” จัดเสวนานักวิชาการท้องถิ่นภาคเหนือระดมความรู้ และรวบรวมข้อมูลร่วมจัดทำพจนานุกรมภาษาไทยถิ่น นำร่องภาคเหนือ ให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี เหตุหวั่นภาษาถิ่นเลือนหาย หลังปัจจุบันพบคนรุ่นใหม่ห่างเหินการใช้ภาษาถิ่น
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ จังหวัดเชียงใหม่ นายพงษ์ศักดิ์ ศิริวงษ์ เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา เป็นประธานเปิดการเสวนาทางวิชาการในเรื่อง “บทบาทของท้องถิ่นต่อการมีส่วนร่วมในการจัดทำรายการวิทยุภาษาไทยถิ่น 3 ภาค และพจนานุกรมภาษาไทยถิ่น 3 ภาค ฉบับราชบัณฑิตยสภา ในโครงการ รู้ รัก ภาษาไทย”
โดยมีกลุ่มนักวิชาการท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ และนักวิชาการภาคเหนือ นำโดย ศ.ดร.ประคอง นิมมานเหมินท์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานจัดทำพจนานุกรมภาษาไทยถิ่น ภาคเหนือ เข้าร่วมในการจัดเสวนาครั้งนี้
เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา กล่าวว่า การจัดเสวนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพบกับนักวิชาการท้องถิ่น ปราชญ์ท้องถิ่น เพื่อที่จะพูดคุย และแลกเปลี่ยนความรู้ในการจัดทำพจนานุกรมภาษาไทยถิ่น ภาคเหนือ ซึ่งกำลังเริ่มดำเนินการโดยทางราชบัณฑิตยสภา ก็มีพจนานุกรมแต่เป็นภาษาไทย
แต่ภาษาถิ่นทางราชบัณฑิตยสภายังไม่ได้ทำ แต่ก็พอจะมีองค์ความรู้ในเรื่องดังกล่าวพอสมควรแล้ว จึงมีโครงการที่จะเริ่มทำทั้ง 3 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ โดยเริ่มต้นจากทางเหนือก่อน จึงได้มีการจัดจั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการ โดยได้มีการกำหนดกรอบเพื่อทำให้พจนานุกรมภาษาถิ่นเป็นฉบับมาตรฐานที่สามารถใช้อ้างอิงในทางวิชาการได้
ขณะเดียวกัน ในราชบัณฑิตยสภา ได้กำหนดให้มีการดูแลเรื่องของภาษา ทั้งภาษาไทย และภาษาถิ่น ซึ่งในภาษาไทยนั้นมีหลักเกณฑ์ที่จะทำค่อนข้างเยอะ แต่ในภาษาถิ่นนั้นยังไม่ได้มีการดำเนินการ โดยตอนนี้ทางราชบัณฑิตยสภา ก็มีความสนใจในเรื่องภาษาถิ่นเนื่องจากภาษาถิ่นนั้นเป็นภูมิปัญญา และวัฒนธรรมของท้องถิ่น
หากภาษาถิ่นเลือนหายไปก็ส่งผลต่อวัฒนธรรมด้วยเช่นกัน เนื่องจากวัฒนธรรมบางอย่างมีความสอดคล้องต่อภาษาถิ่น เมื่อคนในท้องถิ่นไม่ใช้ภาษาถิ่นก็จะทำให้วัฒนธรรมค่อยๆ เลือนหายไป
นอกจากนี้แล้ว ภาษาถิ่นยังเป็นวัฒนธรรมที่สั่งสมกันมาอย่างยาวนานที่มีความสวยงาม เนื่องจากการพูดภาษาในแต่ละท้องถิ่นนั้นจะมีเสียง มีสำเนียงแตกต่างกันไป แต่ในปัจจุบัน การพูดจาส่วนใหญ่กลับเน้นภาษาไทยเป็นหลัก และทำให้คนท้องถิ่นนั้นอายไม่กล้าที่จะพูดภาษาท้องถิ่น และบางครั้งก็มีการเอาภาษาไทยมาผสมกับภาษาถิ่น หรือที่เรียกว่า “พูดทองแดง”
เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ที่ผ่านมา ทางราชบัณฑิตยสภายังได้มีการจัดโครงการส่งเสริมในด้านต่างๆ เช่น การประกวดให้เยาวชนในท้องถิ่นพูดในเรื่องความภูมิใจของท้องถิ่นตัวเองโดยใช้ภาษาถิ่น ที่ได้จัดต่อเนื่องมาทุกปี
โดยจะคัดเลือกเด็กที่พูดได้ดีที่สุด เมื่อชนะการประกวดก็จะมีรางวัลให้ และให้เด็กที่ชนะการประกวดมาพูดภาษาถิ่นในวันภาษาไทยแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ครอบคลุมการเรียนการสอน และปลุกจิตสำนึกที่ดีในการพูดภาษาถิ่น ซึ่งคาดว่าจะเร่งดำเนินการให้พจนานุกรมภาษาถิ่นจะแล้วเสร็จภายใน 5 ปี ซึ่งถือว่าเร็วที่สุด
เนื่องจากแต่ละถิ่นนั้นมีคำเยอะมาก โดยต้องขอความร่วมมือจากทางนักวิชาการท้องถิ่นในการช่วยอีกทางหนึ่ง เนื่องจากทางท้องถิ่นนั้นจะมีพจนานุกรมเก่าที่มีการทำไว้บ้างแล้ว แล้วจะเก็บมาตรวจดูว่ามีคำใดบ้าง และขาดตกบกพร่องตรงไหน เช่น ขาดในรูปของการออกเสียง การเขียนรูปของตัวอักษรล้านนา เป็นต้น ทางราชบัณฑิตยสภาก็จะเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น
สำหรับการเสวนาครั้งนี้จัดขึ้นสืบเนื่องจากตามพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสภา พ.ศ.2558 ที่สำนักงานราชบัณฑิตยสภา มีหน้าที่ข้อหนึ่งคือ “จัดการศึกษาอบรมและพัฒนาทางวิชาการเกี่ยวกับภาษาไทย ภาษาไทยถิ่น” ซึ่งได้ดำเนินการผลิต และออกอากาศรายการวิทยุเกี่ยวกับภาษาไทยถิ่น 3 ภาค เพื่อเผยแพร่ และให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยถิ่นต่างๆ คือ ภาษาไทยถิ่นเหนือ ภาษาไทยถิ่นอีสาน และภาษาไทยถิ่นใต้ มาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555
ทำให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภารวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยถิ่นทั้ง 3 ภาคไว้เป็นจำนวนมาก สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการจัดทำพจนานุกรมภาษาไทยถิ่นต่างๆ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ที่เป็นมาตรฐานของประเทศสำหรับใช้อ้างอิงทางวิชาการ และปรับปรุงรายการวิทยุให้สอดคล้องต่อพันธกิจ โดยรับฟังความคิดเห็นของนักวิชาการท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคเพื่อให้นักวิชาการท้องถิ่น และประชาชนผู้สนใจมีส่วนร่วมในการจัดทำพจนานุกรม และรายการวิทยุภาษาไทยถิ่น 3 ภาค ของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา
ทั้งนี้ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา จึงจัดงานเสวนาทางวิชาการเรื่อง “บทบาทของท้องถิ่นต่อการมีส่วนร่วมในการจัดทำรายการวิทยุภาษาไทยถิ่น 3 ภาค และพจนานุกรมภาษาไทยถิ่น 3 ภาค ฉบับราชบัณฑิตยสภา ในโครงการ รู้ รัก ภาษาไทย” ขึ้น
โดยให้คณะกรรมการดำเนินการจัดทำพจนานุกรมภาษาไทยถิ่น ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ จำนวน 3 กลุ่ม ได้พบปะกับนักวิชาการ และผู้ฟังภาคละ 1 ครั้ง รวม 3 ครั้ง อีกทั้งเพื่อสร้างเครือข่ายนักวิชาการท้องถิ่น และปราชญ์ชาวบ้านในแต่ละภูมิภาคให้มีส่วนร่วมต่อการดำเนินการจัดทำรายการวิทยุภาษาไทยถิ่น 3 ภาค และพจนานุกรมภาษาไทยถิ่น 3 ภาค ของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ซึ่งจะดำเนินการถ่ายทอดสดการเสวนาทางวิชาการตลอดงาน
โดยดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริม เผยแพร่ และรณรงค์การใช้ภาษาไทย-ภาษาถิ่น ให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังขยายขอบเขตการรณรงค์ให้มีการใช้ภาษาถิ่นอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น และเพื่อไม่ให้ภาษาถิ่นสูญหาย ทั้งนี้ ด้วยตระหนักว่าภาษาถิ่นก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมท้องถิ่น และบ่งบอกถึงความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในประเทศไทยที่ควรอนุรักษ์ และสืบทอดให้คงอยู่ตลอดไป