ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ผนึกกำลังองค์กรภาคภาคประชาชนและชาวบ้านชุมชนต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ รวบรวมรายชื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกส่งถึง “หม่อมหลวงปนัดดา” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งอธิบดีกรมศิลปากร, อธิบดีกรมธนารักษ์, ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เรียกร้องให้ยกเลิกแนวคิดการอนุญาตให้ผู้ค้า 264 ราย ใช้พื้นที่ลานประตูท่าแพตั้งร้านจำหน่ายสินค้า
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (26 พ.ค.) เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ พร้อมด้วยองค์กรภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และชุมชนต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เตรียมส่งจดหมายเปิดผนึกพร้อมรายชื่อประชาชนส่งถึงหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งอธิบดีกรมศิลปากร,อธิบดีกรมธนารักษ์,ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่,ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เพื่อคัดค้านกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยมณฑลทหารบกที่ 33 และเทศบาลนครเชียงใหม่ มีแนวคิดเกี่ยวกับการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่ลานประตูท่าแพ โดยเฉพาะในส่วนที่จะอนุญาตให้ผู้ค้าจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพได้
ทั้งนี้ เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวโดยสรุป เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมศิลปากร ที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ลานประตูท่าแพ มีการพิจารณาทบทวนและยกเลิกการอนุญาตให้มีใช้การลานประตูท่าแพตั้งร้านจำหน่ายสินค้า ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งควรจะใช้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้สำหรับประชาชนและผู้สนใจทั่วไปมากกว่านำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งการอนุญาตอาจขัดต่อกฎหมายด้วย
นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะ จึงไม่สมควรอย่างยิ่งนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของคนแต่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ส่วนในกรณีที่ต้องการจะช่วยเหลือผู้ค้าที่มีความเดือดร้อนให้มีพื้นที่ค้าขายเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพนั้น เห็นว่าสามารถหาทางออกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยจัดหาพื้นที่อื่นๆ รองรับ โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นพื้นที่ลานประตูท่าแพ
สำหรับแนวคิดเกี่ยวกับการอนุญาตให้ผู้ค้าจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพนั้น เบื้องต้นมีการกำหนดจะจัดสรรพื้นที่ 40% ให้เป็นที่สาธารณะ และ 60% จะอนุญาตให้ทำการค้าขายได้ โดยพื้นที่สาธารณะ 40% จะเป็นบริเวณลานตรงกลางหน้าประตูท่าแพที่จะปล่อยให้เปิดโล่ง ขณะที่ส่วนที่อนุญาตให้ค้าขาย เป็นพื้นที่ด้านข้าง ที่จัดสรรให้รองรับผู้ค้าได้ 264 ราย และจะมีการอนุญาตเฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียวเท่านั้น ระหว่างเวลา 18.00-23.00 น. โดยหลังจากที่มีแนวคิดดังกล่าวออกมา ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านคัดค้านจากหลายฝ่ายในเชียงใหม่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการนำพื้นที่สาธารณะที่ควรจะใช้ประโยชน์ส่วนรวมและทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ไปจัดสรรเป็นพื้นที่การค้า แม้จะแค่วันอาทิตย์เพียงวันเดียวก็ตาม
ตลอดจนหวั่นเกรงด้วยว่าจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ทั้งความเป็นระเบียบและความสะอาดของบ้านเมือง รวมทั้งการฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ซึ่งพบว่าแค่ในช่วงเริ่มต้นที่ให้เปิดผู้ค้าเดิมลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิคัดเลือกจัดสรรพื้นที่ก็พบปัญหาแล้ว เมื่อบัญชีรายชื่อผู้ค้าของทางเทศบาลมีจำนวนมากกว่า 1,000 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ค้าบนลานประตูท่าแพยืนยันว่าจำนวนที่แท้จริงมีเพียง 470 รายเท่านั้น