xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายชุมชนเชียงใหม่โวยพบคนงานย่องรื้อถอน-ปรับพื้นที่คุกหญิงเดิมจี้ผู้ว่าฯ-นายกเทศมนตรีชี้แจง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายชุมชนและภาคประชาสังคมเชียงใหม่ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าฯ และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เรียกร้องให้ตรวจสอบและชี้แจงภายใน 15 วัน กรณีที่จู่ๆ พบคนงานโผล่นำเครื่องจักรเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและทำการปรับพื้นที่เตรียมทำการก่อสร้างอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยบริเวณที่เคยเป็นร้านจำหน่ายสินค้าราชทัณฑ์ ซึ่งที่ราชพัสดุและเป็นส่วนหนึ่งของทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ (เดิม) หวั่นส่งผลกระทบภาพรวมการพัฒนาโครงการข่วงหลวงเวียงแก้ว รวมทั้งดำเนินการโดยมิชอบและสร้างความเสียหายให้ส่วนรวม เบื้องต้นขอให้สั่งการยุติการดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าจะตรวจสอบชัดเจน

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ (5 ก.ค. 59) เครือข่ายชุมชนและภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นคณะทำงานติดตามการพัฒนาโครงการข่วงหลวงเวียงแก้ว ที่เป็นโครงการพัฒนาบนพื้นที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ (เดิม) กลางเมืองเชียงใหม่ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกลงวันที่ 5 ก.ค. 59 ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และสำเนาถึงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับพื้นที่ในหรือเกี่ยวเนื่องโครงการข่วงหลวงเวียงแก้ว และให้ยุติการใช้พื้นที่โครงการไว้ก่อน หลังช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีคนงานนำเครื่องจักรเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและทำการปรับพื้นที่เตรียมทำการก่อสร้างบริเวณที่เคยเป็นร้านจำหน่ายสินค้าราชทัณฑ์ ซึ่งที่ราชพัสดุและเป็นส่วนหนึ่งของทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ (เดิม)

ขณะเดียวกัน มีการนำเสนอรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวกับการดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวด้วยว่า กลุ่มบุคคลเอกชนคณะหนึ่งและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานรัฐของจังหวัดเชียงใหม่บางคนได้เสนอโครงการสร้างพุทธานุสรณ์เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระญามังรายมหาราชในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษของพื้นที่ที่เคยเป็นทัณฑสถานหญิงเดิม ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แล้ว จากการกรณีดังกล่าวส่งผลให้คณะทำงานติดตามการพัฒนาโครงการข่วงหลวงเวียงแก้วเกิดความกังวลใจว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะขัดแย้งกับแนวคิดและส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการข่วงหลวงเวียงแก้ว ที่ผ่านการรับความคิดเห็นของประชาชนและกำลังดำเนินการอยู่หรือไม่อย่างไร

โดยเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวที่จัดทำขึ้นในนามเครือข่ายชุมชนและภาคประชาสังคม ที่ประกอบด้วย เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ เครือข่ายชุมชนเทศบาลเมืองเชียงใหม่, เครือข่ายบ้านชุ่มเมืองเย็น, เครือข่ายเขียว สวย หอม, เครือข่ายผู้หญิงเชียงใหม่, สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน,ชมรมคนช้างม่อย ,ชมรมอาสาสมัครกฎหมายเพื่อผู้หญิง และเครือข่ายชุมชนย่านสามกษัตริย์ เป็นต้น ได้แสดงความเป็นห่วงกังวลว่าการดำเนินโครงการพุทธานุสรณ์ (หรือชื่ออื่น) ดังกล่าวว่าอาจเป็นการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและ/หรือนโยบายที่เกี่ยวข้อง ไม่มีความเหมาะสม ก่อให้เกิดผลเสียต่อรัฐ สังคม ชุมชนและประโยชน์สาธารณะในด้านต่างๆ หรือเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลใดโดยมิชอบ โดยเครือข่ายฯ ได้ร้องขอให้มีการชี้แจงในประเด็นต่างๆ ได้แก่ 1. โครงการดังกล่าวเป็นของจังหวัดเชียงใหม่หรือหน่วยงานรัฐอื่นใดหรือไม่ และหากเป็นของบุคคลอื่นใด จังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานรัฐอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่

2. (1) วัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าวเป็นอย่างไร (2) ดำเนินการด้วยงบประมาณของหน่วยงานหรือบุคคลใด (3) มีระยะเวลา รวมทั้งแผนดำเนินการอย่างไรและ (4) ในอนาคตจะมีการจัดหาผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ เช่น ค่าเข้าชม ค่าใช้สถานที่ ฯลฯ หรือไม่อย่างไร

3. โครงการดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการข่วงหลวงเวียงแก้วที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการภายใต้วงเงิน 150 ล้านบาทเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2556 หรือไม่ อย่างไร

4. โครงการดังกล่าวนี้จะใช้พื้นที่แปลงใดบ้างในการดำเนินการ 5. (1) โครงการดังกล่าวได้รับอนุมัติให้ดำเนินการจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ อย่างไร (2) ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมธนารักษ์ คณะกรรมการที่ราชพัสดุและ/หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายอย่างไร หรือไม่ และ (3) ในกรณีที่ได้รับอนุญาตภายใต้สัญญาหรือข้อตกลงอย่างไร 6. มีส่วนราชการ บุคคลและสถาบันการศึกษาใดเข้ามาร่วมดำเนินการหรือพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับโครงการบ้าง และผลการดำเนินการหรือการพิจารณานั้นเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ตามจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว ทางเครือข่ายชุมชนและภาคประชาสังคม ได้ร้องขอให้มีการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ปรากฏในหนังสือนี้ โดยแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น มติคณะรัฐมนตรี, เอกสารโครงการดังกล่าวพร้อมแบบแปลนและแผนผังที่เกี่ยวข้อง, หนังสือการได้รับอนุมัติหรืออนุญาต, หนังสือสัญญา เป็นต้นด้วย

นอกจากนี้ ขอให้มีการสั่งการให้ยุติการดำเนินใดๆ ในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวไว้ก่อน เนื่องจากโครงการนี้ชุมชนและภาคประชาสังคมในจังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้มีส่วนร่วมและอาจจะเกิดความเสียหายต่อรัฐ ชุมชน สังคมเมืองเชียงใหม่ตลอดจนสังคมโดยรวมจนกว่าจะเป็นที่ยุติว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้โดยชอบ

นายรุจาดล นันทชารักษ์ ตัวแทนเครือข่ายชุมชนย่านสามกษัตริย์ เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายชุมชนและภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นคณะทำงานติดตามการพัฒนาโครงการข่วงหลวงเวียงแก้ว และเครือข่ายชุมชนย่านสามกษัตริย์ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เพื่อขอให้มีการชี้แจงกรณีที่มีการเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่เคยเป็นร้านจำหน่ายสินค้าราชทัณฑ์ ซึ่งที่ราชพัสดุและเป็นส่วนหนึ่งของทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ (เดิม) โดยที่ทางเครือข่ายชุมชนและภาคประชาสังคม ไม่เคยรับทราบข้อมูลรายละเอียดและมีส่วนร่วมใดๆ เกี่ยวกับโครงการดังกล่าวมาก่อนล่วงหน้า

จึงเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการข่วงหลวงเวียงแก้วที่มีพื้นที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยเบื้องต้นต้องการให้มีการยุติการดำเนินการโครงการดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบว่าดำเนินการโดยชอบหรือไม่ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อส่วนรวม










กำลังโหลดความคิดเห็น