เชียงราย - จังหวัดฯ เปิดเวทีสรุปผลการดำเนินงานแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า หลังระดับฝุ่นละอองในอากาศพุ่งสูงเกินมาตรฐานนานกว่าเดือน หนักสุดในรอบ 3 ปี ชี้เหตุฝนมาช้า คนเผากันมากขึ้น บอกปีหน้าตามแก้กันใหม่
วันนี้ (19 พ.ค.) นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค และวางแผนการปฏิบัติงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ที่ห้องดอยตอง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย
ที่ประชุมสรุปว่า เชียงรายมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,165,000 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติ 4,402,000 ไร่ และพื้นที่เกษตรและชุมชน 1,733,000 ไร่ โดยไฟไหม้เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าเป็นส่วนใหญ่ เฉพาะห้วงเดือนมกราคม-เมษายน 59 มีจุดความร้อนเกิดขึ้น 2 พันกว่าครั้ง ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศ สูงเกินมาตรฐานนานเกือบ 1 เดือน
ปัญหาส่วนใหญ่มาจากการลักลอบเผาเพื่อการเกษตร ล่าสัตว์ ประมาท และไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะช่วงกลางเดือน เม.ย.เกิดขึ้นมากที่สุด จนหมอกควันหนาแน่นมาก และเมื่อพ้นกำหนดห้ามเผา (17 ก.พ.-16 เม.ย.) ก็มีการเผามากขึ้น แม้ทางจังหวัดจะมีคำสั่งใหม่ให้จัดระเบียบในพื้้นที่ทางการเกษตรแล้วก็ตาม
นายอำนาจ เจิมแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย กล่าวว่า ปัญหาไฟป่า และหมอกควันในเชียงรายปีนี้หนักสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นมา โดยมีพื้นที่เสี่ยงจำนวน 5 อำเภอ คือ แม่สรวย แม่ฟ้าหลวง เวียงแก่น เวียงป่าเป้า และอำเภอเมือง รวมทั้งหมด 12 ตำบล และ 120 หมู่บ้าน ในปี 2560 จึงต้องวางมาตรการรองรับกันต่อ
ขณะที่แต่ละหน่วยงานแสดงความเห็นและแนวทางสำหรับอนาคต โดยเฉพาะการพิจารณาขยายระยะเวลา 60 วันดังกล่าวออกไปเป็น 100 วัน หรือตามที่เห็นเหมาะสม ซึ่งมีทั้งหน่วยงานที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย บางคนเห็นว่าควรใช้ระยะเวลาเดิมแต่หามาตรการให้เข้มข้นกว่าเดิม ขณะที่บางส่วนระบุว่าระยะเวลาที่กำหนดไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อไม่มีฝนตกลงมาในเดือน เม.ย.ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าหนักขึ้น
ด้านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาแจ้งว่า ได้ใช้โปรแกรมตรวจฮอตสปอตสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในลักษณะเครือข่ายภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตอาจพิจารณาให้ใช้เครื่องโดรนเพื่อตรวจสอบทางอากาศ รวมทั้งสื่อสาร และส่งสิ่งของวัสดุที่จำเป็นได้ด้วย
