ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ยอมรับสภาพหมอกควันไฟกลับมาปกคลุมหนาทึบทั่วทั้งเมือง จนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งเกินมาตรฐานกระทบสุขภาพ 3 วันติดต่อ ระบุสาเหตุมาจากการผ่อนผันอำเภอแม่แจ่มสามารถเผากำจัดเศษวัสดุเหลือใช้ในพื้นที่การเกษตรที่สะสมจำนวนมาก แต่กลับมีอีกหลายอำเภอสวมรอยเผาตามด้วย สั่งการนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอเร่งควบคุมดูแลแล้ว ย้ำมาตรการเข้มงวดต่อเนื่องถึงสิ้นเดือน เม.ย.เป็นอย่างน้อย และจัดชุดลาดตระเวนห้ามเผาในพื้นที่ป่าเหมือนเดิม
วันนี้ (18 เม.ย. 59) นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ล่าสุดมีความรุนแรงและปกคลุมหนาทึบทั่วทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ตลอดทั้งวันว่า ตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมายอมรับว่าสถานการณ์หมอกควันกลับมามีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งและพบจุดความร้อนหรือ Hotspot เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
โดยเบื้องต้นพบว่าปัจจัยเนื่องมาจากสิ้นสุดช่วง 60 วันห้ามเผาไปเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 59 และมีการอนุโลมผ่อนผันให้เฉพาะพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม สามารถทำการเผาในพื้นที่การเกษตรเพื่อกำจัดวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้ ตามแผนงานและข้อสั่งการของทางจังหวัด เนื่องจากช่วงที่ผ่านงดเผาและมีเศษวัสดุเหลือใช้คงค้างสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการโหมเผาในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม พบว่านอกจากพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม ยังมีอีกหลายอำเภอที่ทำการเผาในพื้นที่เกษตรด้วย โดยที่ไม่เป็นไปตามแผนงานและข้อสั่งการของทางจังหวัด จึงส่งผลให้เกิดหมอกควันไฟจากการเผาสะสมในตัวเมืองเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีการเน้นย้ำกำชับไปยังนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ให้เคร่งครัดสั่งการควบคุมการเผาในพื้นที่ให้เป็นไปตามระบบและข้อสั่งการของทางจังหวัด ในการอนุโลมผ่อนผันให้แต่ละอำเภอทำการเผาได้ตามลำดับ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ย้ำว่า การอนุโลมผ่อนผันดังกล่าวนี้นั้นให้เฉพาะพื้นที่การเกษตรเท่านั้น ส่วนพื้นที่ป่าทั้งป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ ยังคงห้ามเผาอยู่เช่นเดิม โดยจะมีการดำเนินมาตรการในการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งการจัดชุดลาดตระเวนสกัดกั้นและดับไฟ รวมทั้งการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนทำการเผาต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้เป็นอย่างน้อย
ขณะที่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาผลกระทบในช่วงที่สถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอยู่นั้น นายมงคลกล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานสั่งการไปยังองค์กรปกครองท้องถิ่นทั้ง 211 แห่งของจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีการจัดหารถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นรดตามต้นไม้ในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและให้กิ่งไม้ใบไม้เป็นตัวช่วยจับฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจาย
ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ที่วัดค่าได้ 163 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินมาตรฐานต่อเนื่องกัน 3 วันติดต่อแล้ว และสถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ที่วัดค่าได้ 150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร