ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กำชับทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องทุ่มเททำงานป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลาดตระเวนสกัดการเผา หลังพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานไปแล้ว 10 วัน โดยมั่นใจว่าในท้ายที่สุดจะบรรลุเป้าหมายในการลดจำนวนวันให้น้อยลงจากปีก่อน ขณะที่การเฝ้าระวังผู้ป่วยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากหมอกควันล่ามียอดรวมแล้วเกือบ 8 หมื่นราย
วันนี้ (28 มี.ค. 59) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2559 เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า เบื้องต้นสถานการณ์ภาพรวมในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถือว่าดีขึ้นและเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เห็นได้จากจำนวนจุดความร้อน (Hot spot) ที่ลดลงไปเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น อำเภอเวียงแหง ที่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีจำนวนจุดความร้อน 111 จุด ขณะที่ปีนี้เพิ่งมีเพียง 3 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานอย่างจริงจังของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
ส่วนจำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรนั้น ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 10 วัน ซึ่งยังมีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องทุ่มเททำงานต่อไป เพื่อทำให้จำนวนวันลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ในช่วงวันที่ 1 ม.ค. - 15 เม.ย. 2558 มีจำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 17 วัน โดยเชื่อมั่นว่าจากการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอดจะได้ผลตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า สิ่งสำคัญที่จะต้องทำในเวลานี้ก็คือการควบคุมไม่ให้มีการเผาให้ได้ ทั้งการขอความร่วมมือจากประชาชน และการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเน้นย้ำว่าการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ทำมีการจัดกำลังกระจายทั่วทุกพื้นที่ 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผาเป็นหลัก แต่หากพบว่ามีการลักลอบเผาก็ต้องทำการดับไฟให้ได้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการลุกลามจนส่งผลกระทบตามมา รวมทั้งจะต้องพยายามทำการสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ด้วยเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
สำหรับผู้ป่วยที่อาจจะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากภาวะหมอกควันไฟป่านั้น ในการประชุมครั้งนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า จากการเฝ้าระวังติดตามผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคระบบทางเดินหายใจ, ตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-27 มี.ค. 2559 จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยที่อาจจะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากภาวะหมอกควันไฟป่าจำนวนทั้งสิ้น 79,213 ราย แต่จากการวิเคราะห์ยังไม่พบว่าจำนวนผู้ป่วยและจำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM10 เกินค่ามาตรฐาน มีนัยสัมพันธ์กันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานกำชับไปยังโรงพยาบาลทุกแห่ง รวมทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ให้มีการจัดเตรียมยา, เวชภัณฑ์ และทำช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยที่อาจได้รับผลกระทบสุขภาพจากภาวะหมอกควัน พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนและข้อแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนในช่วงสถานการณ์หมอกควัน ให้หลีกเลี่ยงการออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ทั้งนี้ได้มีการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยสำหรับให้ประชาชนสวมใส่ป้องกันตัวเองไปแล้วรวม 150,000 ชิ้น