ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ระดมสมองวางมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางทะเลพัทยา-เกาะล้าน หลังเกิดเหตุบ่อยครั้ง พร้อมบูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แก้ปัญหาจริงจัง เสนอแนวคิดควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยว และจัดเก็บค่าธรรมเนียมเหยียบแผ่นดิน
วันนี้ (11 พ.ค.) ในการประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ประจำเดือนพฤษ ภาคม 2559 ที่โรงแรมแกรนด์โซเลย์ พัทยา จ.ชลบุรี ได้มีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันปัญหาอุบัติภัยทางทะเลมาร่วมหารือ และรับฟังแนวทางการป้องกัน จากสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค เมืองพัทยา
หลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือชนกันบริเวณพื้นที่หน้าหาดตาแหวน ชุมชนบ้านเกาะล้าน ในช่วงวันที่ 25-26 เมษายนที่ผ่านมา จำนวน 2 ราย ซึ่งส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ โดยกรณีดังกล่าวถือว่าสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก
นายเอกราช คันธโร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าพัทยา กล่าวว่า สำหรับเมืองพัทยาถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางทะเล โดยเฉพาะพื้นที่เกาะล้าน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปพักผ่อนกว่า 1-2 หมื่นคนต่อวัน ส่งผลให้มีการบริการเรือโดยสารข้ามฟากหลากหลายชนิดเฉลี่ยวันละ 600-800 เที่ยว กรณีดังกล่าวจึงถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัย
อีกทั้งยังเคยเกิดกรณีอุบัติเหตุจนสร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินมาแล้วในปี 2556 ด้วยเหตุนี้ เมืองพัทยา จึงได้ร่วมกับสำนักงานเจ้าท่า ในการวางแผนแม่บทเพื่อดูแลความปลอดภัยทางทะเลตามโครงการ “พัทยาโมเดล” ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 25-26 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นจึงได้เข้าทำการตรวจสอบกระทั่งพบว่า ปัญหาเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตการใช้เรือ และใบนายท้ายเพื่อห้ามประกอบการในพื้นที่เมืองพัทยาไปแล้ว
พร้อมกันนี้ ได้จัดประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการใหม่ โดยจากนี้จะมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ทั้งการจัดทำแนวทุ่นการสัญจรเข้าออกของเรือทุกชนิด เรื่องของความปลอดภัยของตัวเรือ การกำหนดความเร็วของเรือโดยสาร และมาตรฐานของผู้ขับขี่ ซึ่งหากพบว่ามีการฝ่าฝืนก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่เกาะล้าน ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีมาตรการควบคุมที่ชัดเจนจึงมีการหารือที่จะนำเสนอเพื่อควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางพักผ่อนในแต่ละวัน รวมทั้งการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการเหยียบแผ่นดินเหมือนแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอื่นๆ เพื่อเป็นการจัดหารายได้นำมาสนับสนุนแผนในการดูแล อำนวยความสะดวก แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยในด้านต่างๆ ซึ่งจะมีการหารือในระดับรัฐบาล รวมทั้งการนำเข้าสู่แผนในโครงการ “แอ็กทีฟบีช” เพื่อพิจารณาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววันนี้