ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านรอบโรงงานอุตสาหกรรม IRPC ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูความเดือนร้อนชาวบ้านหลังได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหนักของ IRPC พร้อมเตรียมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และ คสช.ช่วยเหลือด่วน
นายอรัญ โพธิแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลเชิงเนิน อ.เมือง จังหวัดระยอง เผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านรอบโรงงานอุตสาหกรรมไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก ทั้งในเรื่องของเสียงที่ดังมาก กลิ่นเหม็นมากจนทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบต่อสุขภาพทั้งจิตใจ และร่างกาย โดยมีอาการเจ็บหน้าอก แสบจมูก มีน้ำมูก เวียนศีรษะ แสบคอ และไอ โดยที่ผ่านมา พวกเราได้รับผลกระทบมาโดยตลอด แต่ในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเราได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากจนทนรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้ว
ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้าน จึงมีชาวบ้านร้องเรียนเข้ามาตลอดเวลา พร้อมทั้งถูกต่อว่าทางผู้ใหญ่บ้านไม่ทำงาน ไม่ช่วยเหลือประชาชน เข้าข้างโรงงาน ทั้งที่ก็ได้แจ้งไปยังโรงงานอุตสาหกรรม IRPC แล้ว ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ทางโรงงานมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหนักยูเอชวี ทำการเดินเครื่องจักร จะป้อนน้ำมันเข้าหน่วยผลิต ซึ่งจะเกิดการระบายไปเผาที่หอเผาทิ้ง ทำให้เกิดแสงสว่าง และควันที่หอเผาทิ้ง แต่ได้มีการเฝ้าระวังปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น
โดยคำตอบที่ได้รับเป็นลักษณะนี้ทุกครั้งที่ร้องเรียน นอกจากนี้ ยังมี sms แจ้งมายังผู้นำชุมชน ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพียงแต่แค่เฝ้าระวังเท่านั้น แล้วพวกเราชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร จึงได้แจ้งไปยังอำเภอเมืองระยอง โดยมีปลัดอำเภอเมือง ได้ลงมาดูพื้นที่ซึ่งก็ยอมรับว่า ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจริง จึงได้ให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาลงรายชื่อเพื่อที่จะทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นายอรัญ กล่าวอีกว่า ทางชุมชนตำบลเชิงเนิน ได้รับผลกระทบต่อโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหนัก (ยูเอชวี) ในการจูนเครื่องจักรมีเปลวไฟ และเสียงกลิ่น ซึ่งชาวบ้านอาศัยอยู่รอบเขตประกอบการได้รับผลกระทบโดยตรงจนทนไม่ไหว ซึ่งไม่ทราบว่า ในส่วนของท้องถิ่นผู้มีอำนาจในการดำเนินการออกใบอนุญาตให้ปลูกสร้างตามเทศบัญญัติของทางเทศบาลตำบลเชิงเนินได้อย่างไร
ในขณะที่เวลาที่ชาวบ้านในพื้นที่ประกอบการซึ่งได้รับความเดือดร้อน ทางท้องถิ่นไม่เคยสนใจดูแลความเดือดร้อน จนชาวบ้านต้องขอความเป็นธรรมต่อทางผู้นำชุมชน ซึ่งผู้นำชุมชนก็ได้ให้คำตอบได้แค่เพียงว่า อดทนรอฟังคำชี้แจงจากทางผู้ประกอบการ แต่ก็เหมือนแก้ตัวให้แก่ทางผู้ประกอบการ ทางผู้นำจึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาลงชื่อขอความเป็นธรรมต่อหน่วยงานของโรงงานดังกล่าว
ซึ่งพวกเราจึงขอความจริงในส่วนของเวลาว่า อีกนานเท่าไรที่ชาวบ้านต้องอดทนได้รับกลิ่น และเสียงดัง บางครั้งดังมากจนชาวบ้านตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ผลก็คือ ยังไม่ได้รับการชี้แจงที่แน่นอนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือท้องถิ่น ขณะนี้ตนได้กำลังทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง อุตสาหกรรมจังหวัด อำเภอเมือง สิ่งแวดล้อม และ คสช.ให้เข้ามาช่วยเหลือพวกเราโดยด่วน
ด้าน น.ส.กิ่งกาญจณ์ บุญระยอง ชาวบ้าน ม.6 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จังหวัดระยอง เผยว่า บ้านของตนอยู่ห่างจากโรงงานประมาณ 500 เมตร ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรง ทั้งเสียง และกลิ่น รวมทั้งแสงที่ออกจากปล่องไฟ มีทั้งควันดำ และแสงไฟที่สว่างมาก ในเวลากลางคืน ซึ่งสว่างกว่าแสงไฟส่องสว่าง ทำให้ไม่สมารถหลับนอนได้ รวมทั้งเสียงที่ดังมากจนทำให้คนในบ้าน ทั้งที่อยู่ใกล้ๆกันต้องตะโกนคุยกัน เป็นการเสียงทั้งสุขภาพจิตใจและร่างกาย
จึงให้ขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลโดยด่วน ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวา กลัวว่าสารพิษที่มาพร้อมกับกลิ่นและควันนั้นอาจจะทำให้เราเป็นโรคร้ายได้ โดยที่ผ่านมา พวกเราได้ร้องเรียนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม IRPC แล้ว โดยแจ้งว่า เป็นกระบวนการผลิต ที่จะต้องเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเราก็เข้าใจได้ แต่ทางโรงงานทำไม่เข้าใจชาวบ้านบ้างว่ากระบวนกากรผลิตของโรงงานทำให้ชาวบ้านเดือนร้อน ทำไมไม่คิดที่จะแก้ไข
ที่สำคัญก่อนสร้างโรงงาน ทางหน่วยงานของรัฐปล่อยให้สร้างได้อย่างไร เพราะอยู่ห่างจากชุมชนเพียงแค่ 500 เมตร หากไม่สามารถแก้ไขได้ พวกเราที่อยู่รอบโรงงานก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ต่อไปแล้ว โดยขอให้ทางโรงงานมาซื้อที่ดินที่อยู่รอบโรงงานแต่ต้องมีข้อแม้ว่าต้องไม่มีการก่อสร้างโรงงานใดๆอีก นอกจากปล่อยให้เป็นพื้นที่กันชนเท่านั้น
นายสมพงษ์ วุฒิเลาหพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี เผยว่า โครงการยูเอชวี ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างเริ่มเดินเครื่องจักร โดยเมื่อวันที่ 19 มี.ค.59 เวลาประมาณ 10.00 น.บริษัทฯ ได้เริ่มนำน้ำมันหนักเข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งจะทำให้มีแสงสว่างและเสียงที่หอเผาเป็นระยะ บริษัทฯ ได้เตรียมมาตรการป้องกันและ ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น คือ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอด 24 ชั่วโมง
โดยจัดให้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบเขตประกอบการฯ 6 สถานี และตรวจวัดคุณภาพอากาศในจุดที่เฝ้าระวังพิเศษ 3 สถานี ตรวจวัดระดับเสียงในพื้นที่ชุมชนในรัศมี 1-2 กิโลเมตร และหลีกเลี่ยงการเดินกระบวนการผลิตที่จะทำให้เกิดเสียงในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงการตรวจวัดคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และจุดระบายน้ำทิ้งของเขตประกอบการฯ เป็นประจำทุกสัปดาห์
มาตรการป้องกันด้านสุขภาพอนามัยในชุมชน บริษัทฯ ได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พิเศษ เพิ่มเติมจากการออกหน่วยแพทย์ปกติ 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 - 25 มี.ค.59 ในช่วงเวลา 08.30 - 12.00 น.ในชุมชนรอบโรงกลั่น โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้จากเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานภาคสนาม หรือศูนย์ควบคุมภาวะฉุกเฉินไออาร์พีซี หมายเลขโทรศัพท์ 1800 - 800 - 008 หรือ 038 - 802 - 560 ตลอด 24 ชั่วโมง