ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นักวิจัยสถาบันวิจัยสังคม ม.เชียงใหม่ ออกแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ เรื่อง “ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนต่อคนท้องถิ่นในภาคเหนือ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เบื้องต้น พบคนท้องถิ่นให้การยอมรับนักท่องเที่ยวจีน และมีการปรับตัวเข้าหากันได้ดีขึ้น แม้มีปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมาตลอด โดยล่าสุด เป็นเรื่องแห่ขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเที่ยวเองก่อปัญหาจราจร และเริ่มพบนักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนรองรับนักท่องเที่ยวจีนด้วยกันเอง แนะทุกฝ่ายเกี่ยวข้องเร่งปรับตัวรับมือ คาดอีก 5 ปี นักท่องเที่ยวจีนเข้าเชียงใหม่เพิ่มอีกหลายเท่าตัว จากประมาณ 1 ล้านคนเมื่อปีที่ผ่านมา
นางกรวรรณ สังขกร นักวิจัย (ชำนาญการพิเศษ) หัวหน้าศูนย์วิจัยบริการและวิชาการ สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังเทศกาลตรุษจีนปี 2559 ในช่วงระหว่างเดือน ก.พ.-มี.ค.59 ที่ผ่านมา ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนด้วยออกแบบสอบถามออนไลน์ เรื่อง “ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนต่อคนท้องถิ่นในภาคเหนือ ปีที่ 3” ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในเรื่องเดียวกันนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่ปี 2557 ด้วยการออกแบบสอบถาม และเก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยปีนี้มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นประมาณ 700 ชุด และระหว่างนี้กำลังอยู่ระหว่างการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม จากการประมวลข้อมูลจากแบบสอบถามในเบื้องต้น พบว่า ภาพรวมทัศนคติ และมุมมองที่คนท้องถิ่นในภาคเหนือต่อนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเป็นจำนวนมาก ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยหลักเป็นผลมาจากการที่คนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวจีนต่างมีการปรับตัวเข้าหากัน และมีความเข้าใจกันมากขึ้น เนื่องจากมีการสื่อสารกันได้มากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนยังคงมีอยู่ เพียงแต่มีการเปลี่ยนจากปัญหาเดิมเป็นปัญหาใหม่
ทั้งนี้ ในปี 2557 ที่เป็นปีแรกของการทำแบบสำรวจความคิดเห็นในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวจากช่วงก่อนหน้านั้น ในปีแรกพบว่า ปัญหาหลักเป็นในเรื่องของการสื่อสารระหว่างกัน และความไม่เข้าใจเกี่ยวกับธรรมเนียมที่แตกต่าง ส่วนปีต่อมา พบว่า คนท้องถิ่นมีทัศนคติต่อนักท่องเที่ยวจีนดีขึ้น และต่างมีความพยายามที่สื่อสาร ทำความใจ รวมทั้งปรับตัวเข้าหากันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม พบว่า ยังคงมีปัญหาความไม่พอใจเกี่ยวกับการพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีนอยู่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการชี้แจง และแนะนำการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมให้จนสามารถบรรเทาปัญหาลงได้ในระดับหนึ่ง
ขณะที่ปัญหาที่พบล่าสุด จากการสำรวจความคิดเห็นในปีนี้เป็นประเด็นเกี่ยวกับการที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวด้วยการขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนทำให้คนท้องถิ่นเริ่มรู้สึกไม่พึงพอใจ เนื่องจากการขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเป็นจำนวนมากดังกล่าวนั้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่อปัญหาการจราจรติดขัด และปัญหาอุบัติเหตุ เนื่องจากความแตกต่างในเรื่องระบบการจราจรเดินรถ รวมทั้งการที่นักท่องเที่ยวจีนนำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดในพื้นที่สาธารณะต่างๆ อย่างไม่เหมาะสมด้วย
นอกจากนี้ พบด้วยว่ามีแนวโน้มที่จะมีประเด็นปัญหาใหม่ เนื่องจากพบว่า ปัจจุบันนักธุรกิจจีนเริ่มมองเห็นช่องทางในการที่จะเข้ามาลงทุนทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อการเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนในพื้นที่เชียงใหม่มากขึ้น และอาจจะมีผลกระทบต่างๆ ตามมา ซึ่งมีข้อเสนอแนะว่า ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการไทยควรจะรับรู้ข้อมูล และมีการปรับตัวให้เท่าทันสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เพื่อไม่ให้เป็นฝ่ายเสียประโยชน์
“ปัจจุบันพบว่า นักธุรกิจจีนเริ่มมองเห็นลู่ทาง และเข้ามาลงทุนทำธุรกิจหลายอย่างในพื้นที่ที่ตอบสนอง และรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีน เช่น ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก เป็นต้น ซึ่งมีการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ยกตัวอย่าง เช่น การไปเจรจาตกลงกับโรงแรมที่พักที่อาจจะมีผลประกอบการไม่ดี แล้วเช่าทำธุรกิจระยะยาว 30-50 ปี เป็นต้น นอกจากนี้ พบว่าเริ่มมีการให้นักท่องเที่ยวจีนชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างการท่องเที่ยวผ่านการใช้งานระบบแอปพลิเคชันแทนการใช้เงินสดในร้านค้า หรือแหล่งจับจ่ายบางแห่งที่เจ้าของแอปพลิเคชันในจีนทำข้อตกลงกันไว้ โดยระบบจะทำการหักเงินจากบัญชีของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศจีนเลย ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจที่ควรจะต้องรู้เท่าทัน และมีการปรับตัวให้ได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ที่เป็นไป” นางกรวรรณ กล่าว
นักวิจัย (ชำนาญการพิเศษ) หัวหน้าศูนย์วิจัยบริการและวิชาการ สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุด้วยว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ที่สำรวจความคิดเห็นในเรื่องนี้ พบว่า ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกปี และคาดว่าในปีต่อๆ ไปก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก ตราบเท่าที่นักท่องเที่ยวจีนยังคงเดินทางเข้ามาอยู่ ซึ่งจากข้อมูลในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 130 ล้านคน มาประเทศไทยประมาณ 8 ล้านคน ในจำนวนนี้มาเชียงใหม่ประมาณ 800,000-1,000,000 คน
ขณะที่ในอีก 4-5 ปี ข้างหน้า คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 300 ล้านคน ซึ่งน่าจะมีสัดส่วนที่เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย และเชียงใหม่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้าในการรับมือต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ได้รับประโยชน์มากกว่าการคอยตามแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ นางกรวรรณ แสดงความเห็นว่า แท้ที่จริงแล้วปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นไม่ได้มีเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวจากหลายชาติก็มีปัญหาในเรื่องเดียวกันนี้เช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และประเทศไทยมีสัดส่วนที่มากกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่นหลายเท่าตัว นักท่องเที่ยวจีนจึงถูกจับตามองได้ง่าย และมากเป็นพิเศษ ทำให้บางครั้งควรต้องให้ความเป็นธรรมต่อนักท่องเที่ยวจีนด้วย