xs
xsm
sm
md
lg

ใกล้บรรลุเป้าหมาย ... “โครงการขุนเขาแห่งความสุขจีน-ไทย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำเร็จไปแล้วอีกก้าวหนึ่งสำหรับ “โครงการขุนเขาแห่งความสุขจีน-ไทย” ที่ได้ฤกษ์ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ เมืองหนานหนิง ประเทศจีนไปแล้ว โดยรัฐบาลไทย-จีน ได้ร่วมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ด้าน ททท.ชี้เป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยได้อย่างดีโดยที่ภาครัฐไม่ต้องลงทุน คาดโครงการเปิดบริการได้กุมภาพันธ์ปีหน้าแน่นอน เผยวันนี้มีคนสนใจเข้ามาร่วมในโครงการจำนวนมาก ทั้งภาคเกษตรกร และนักลงทุน

นายศุภดณ โฉมมงคล กรรมการบริหารบริษัท การลงทุน การท่องเที่ยวสวนสนุกจีน-ไทย กว่างซี จำกัด 1 ในเจ้าของโครงการขุนเขาแห่งความสุขจีน-ไทย หรือไทยทาวน์ เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการฯ ว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจำนวนมากทั้งในส่วนของเกษตรกร และนักลงทุนในด้านต่างๆ

ล่าสุด โครงการได้ฤกษ์จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา โดย นายวิษณุ เจริญศิลป์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธาน โดยหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี โครงการน่าจะแล้วเสร็จ หากไม่มีปัญหาอุปสรรคน่าจะเปิดให้บริการได้เดือนกุมภาพันธ์ 2560

ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากเปิดตัวโครงการไปแล้วมีเสียงตอบรับจากภาคเกษตรกร รวมทั้งนักลงทุนสนใจที่จะร่วมนำสินค้าเกษตรจากประเทศไทยไปขายที่จีนจำนวนมาก ซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะให้คนไทยส่วนใหญ่ที่มีอาชีพเกษตรกรรม เป็นกระดูกสันหลังของชาติ จากที่มีหน้าที่ผลิตอย่างเดียวหันมาเป็นผู้ขายเองบ้าง

โดยหวังให้เกษตรกรไทยได้ลืมตาอ้าปากได้ ลงมือปลูกพืชผักเอง แทนที่จะรอให้มีนายทุนมาซื้อผลผลิตไปจำหน่าย แต่เรามีพื้นที่รองรับให้เกษตรกรไทยมีพื้นที่จำหน่ายสินค้าได้ด้วยตนเองในต่างประเทศ พร้อมกันนี้ ได้ดึงเอาธุรกิจการท่องเที่ยวมาช่วยด้วย โดยนำเอาความเป็นไทยมาเป็นจุดขายในโครงการเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

ปกติแล้วผลผลิตทางการเกษตรของไทยเกือบทุกตัวเป็นที่ต้องการของคนจีน ซึ่งปัจจุบันก็มีการติดต่อค้าขายกันอยู่แล้ว

ภายในโครงการนี้จะประกอบด้วย ท่องเที่ยว ซึ่งจะมีส่วนจัดแสดงของสวนสัตว์ ตลาดน้ำ 4 ภาค ซึ่งเป็นการนำสินค้าศิลปวัฒนธรรมไทยทั้ง 4 ภาค การแสดงโชว์สาวประเภทสอง การแสดงโชว์มวยไทย วัดไทย และโรงแรม ซึ่งถือว่าเป็นภาคธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจไทย และจีน ผสมผสานหลายแนวธุรกิจไว้ด้วยกัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของไทย และยังไม่เคยมีโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศใดมาก่อน

นายศุภดณ กล่าวอีกว่า ทางโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลท้องถิ่นของนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจใหม่ของประเทศจีน ปัจจุบัน กำลังมีการพัฒนาโครงการพื้นฐานแล้วในหลายด้านๆ ใกล้สนามบิน มีถนนมอเตอร์เวย์ตัดผ่าน พร้อมทั้งรถไฟความเร็วสูงหนานหนิง-กุ้ยหลิน และโครงการดังกล่าวอยู่ห่างจากท่าเรือน้ำลึกเพียง 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองที่มีแนวโน้วการขยายตัวของภาคธุรกิจต่างๆ มากขึ้น

ด้าน นายวิษณุ เจริญศิลป์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมืออันดีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน กับประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา เป็นที่ทราบดีว่า ไทย-จีน มีความสัมพันธ์อันดีกันมาช้านาน ทั้งทางด้านทูต การค้า เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ ระยะเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะมีนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ทางการจีนได้ให้ความสนใจประเทศไทย ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมชาติ และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเยือนจีนเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้วที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจไทย-จีน ในการวางแผนดำเนินโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการตอบสนองความต้องการ และรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ต้องการเดินทางเยือนประเทศไทย

โครงการขุนเขาแห่งความสุข เป็นเสมือนกับการนำประเทศไทยมาจัดแสดงไว้ ณ ประเทศจีน วัฒนธรรมไทย และสินค้าต่างๆ จากประเทศไทย โครงการนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศได้เป็นอย่างมาก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองหนานหนิง ที่มีนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ หรือแม้แต่คนไทยเองก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมกิจการต่างๆ และต่อยอดให้นักท่องเที่ยวเกิดความรู้สึกต้องการที่จะเดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒธรรมของไทย นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายสินค้าจากเกษตรกรไทยที่นำมาออกบูทจำหน่าย เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้อีกทางหนึ่ง

นายวรวุธ เชวงเกียรติ รักษาการกงสุลใหญ่ นครหนานหนิง เผยว่า นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มีความใกล้ชิดกับเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดนเฉพาะนครหนานหนิง ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ได้มาเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับเทศบาลนครขอนแก่น

สำหรับโครงการไทยทาวน์ ซึ่งทราบว่า จะมีการนำสินค้าไทยมาออกร้าน พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนไทยที่จะเข้ามาประกอบกิจการ อำนวยความสะดวกในเรื่องของเอกสารทางราชการ รวมทั้งคำปรึกษาต่างๆ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทางกงสุลไทยต้องทำอยู่แล้ว ประกอบกับ ตัวโครงการนี้รูปแบบ คือ ขายความเป็นไทย ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้คนจีนได้รับทราบไปด้วยในตัวอยู่แล้ว โดยที่หน่วยงานทางราชการไทยไม่ต้องมาจัดงาน ตั้งบูทประชาสัมพันธ์เมืองไทยเอง

โครงการดังกล่าวจะเป็นหน่วยงานที่ประชาสัมพันธ์ให้ตลอดทั้งปี จากเดิมที่เราจะมีการจัดกิจกรรม โดยจัดให้มีโชว์ความเป็นไทยในหลากหลายแง่มุม ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่สนใจประเทศไทย แต่หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจะเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย และวัฒนธรรมประเพณีไทย ทำให้คนจีนอยากที่จะได้เดินทางไปสัมผัสของจริงได้เลยตลอดทั้ง 365 วัน แทนที่จะได้เห็นปีละ 1 วัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และน่าสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากไปถึงนักลงทุนคนไทยกลุ่มอื่นๆ ที่สนใจที่จะมาลงทุนในประเทศจีน ซึ่งจริงๆ แล้วการลงทุนในประเทศจีนไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่จะมองว่าประเทศจีนคือ ตลาดใหญ่ แต่ต้องดูให้ลึกซึ้งเพราะในแต่ละเมืองมีทั้งชอบ และไม่ชอบเมืองไทย แต่เขตปกครองกว่างซีจ้วง จะมีสัมพันธ์กับประเทศไทยมาก จึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่าลงทุนในเมืองนี้
ศุภดณ โฉมมงคล กรรมการบริหารบริษัท การลงทุน การท่องเที่ยวสวนสนุกจีน-ไทย กว่างซี จำกัด
ประกอบกับในขณะนี้นครหนานหนิง เป็นเมืองที่กำลังมีการพัฒนาในหลายๆ ด้าน ระบบเศรษฐกิจกำลังมีทิศทางที่ดีขึ้น ประชาชนมีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอย และมีแนวโน้มที่สูงขึ้น พร้อมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ในเขตปกครองกว่างซีจ้วง อยากที่จะไปท่องเที่ยวเมืองไทยอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะลงทุนสำหรับโครงการไทยทาวน์

พร้อมกันนี้ อยากฝากถึงนักลงทุนไทยว่าต้องศึกษาอย่างละเอียด รวมทั้งคู่ค้าที่จะมาลงทุนในประเทศจีนให้รอบคอบ เพราะทุกธุรกิจที่นักลงทุนไทยมีศักยภาพที่จะมาลงทุนที่จีนได้ ซึ่งก็มีนักธุรกิจจีนก็พร้อมที่จะลงทุนเองได้เช่นกัน ซึ่งหากเราไม่ศึกษาให้รอบคอบ เราก็จะสู้ทุนจากท้องถิ่นจีนไม่ได้ ฉะนั้นต้องศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนที่จะมาลงทุน
วิษณุ เจริญศิลป์  รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นายวัชระพันธ์ จันทรขจร เลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เผยว่า ก้าวนี้เป็นก้าวเล็กๆแต่จะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ต่อไป โครงการนี้ถือเป็นประตูเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยได้เป็นผู้ค้ามองว่าเป็นโครงการที่มีอนาคต และคิดว่าสามารถทำได้จริง ซึ่งหลังจากนี้ นับถอยหลังรอวันเปิดดำเนินการจริง สิ่งที่ทางกองทุนต้องทำในขณะนี้ คือ เร่งรัดในส่วนของสมาชิกกองทุนฯ ให้เตรียมความพร้อมในเรื่องผลผลิต เนื่องจากในช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ประสบปัญหาภัยแล้ง และปัญหาหนี้สิน

อย่างไรก็ตาม ทางกองทุนฯ ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจต่อเกษตรกรถึงโครงการดังกล่าว เพราะจะทำให้เกษตรกรสามารถนำผลผลิตของตนเองไปขายได้จริง ซึ่งทำให้พวกเขามีความหวัง และพอใจมาก ซึ่งขณะนี้ก็มีการรวมกลุ่มกันแล้วทั่วประเทศ
วรวุธ เชวงเกียรติ รักษาการกงสุลใหญ่ นครหนานหนิง
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ คือ กองทุนฯ ก็ต้องเร่งให้ความรู้ และข้อมูลการดำเนินการต่างๆ และที่สำคัญคือ เรื่องของการรายงานให้รัฐบาลรับทราบ และให้เข้าใจตัวโครงการให้ชัดเจน ซึ่งกองทุนฯ ต้องเร่งทำรายงานให้รัฐบาลรับทราบถึงรายละเอียดทั้งหมดของโครงการ โดยที่ผ่านมา อาจจะรับรู้มาบ้างแต่ไม่ลงลึกในรายละเอียด

อย่างไรก็ตาม จากโครงการนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับตัวเกษตรกร ซึ่งจะต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ รวมถึงภาครัฐบาลเอง จะเป็นข้อพิสูจน์ว่ ารัฐบาลจะช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างไร และมีทิศทางอย่างไร ซึ่งเรื่องตลาดถือว่าเป็นที่สำคัญ หากมีแนวทางแล้วสามารถทำการเปิดตลาดได้ในทุกพื้นที่
วัชระพันธ์ จันทรขจร เลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
โครงการขุนเขาแห่งความสุขจีน-ไทย หรือไทยทาวน์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 4,000 ไร่ ตั้งอยู่พื้นที่นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน โดยการร่วมทุนของ 3 นักธุรกิจไทยจีน งบประมาณลงทุนประมาณ 45,000 ล้านบาท จะเริ่มเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560
กำลังโหลดความคิดเห็น