“ดอยเต่า” แล้งหนัก สัตว์นับหมื่นไร้อาหาร องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเข้าช่วยเหลือ มอบถังน้ำ 1,000 ลิตร จำนวน 40 ถัง และโปรตีนสัตว์ ให้ผู้เลี้ยงโค-กระบือ 30 ชุมชน หลังจากโค-กระบือกว่า 2.8 หมื่นตัวกำลังขาดน้ำและสารอาหาร
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประจำประเทศไทย (World Animal Protection Thailand) ร่วมกับกรมปศุสัตว์ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบถังบรรจุน้ำขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 40 ถัง เพื่อบรรทุกน้ำในการให้อาหารสัตว์ โดยเฉพาะโค-กระบือ ในพื้นที่ อ.ดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งโปรตีนซองละลายน้ำเพื่อเสริมสร้างแร่ธาตุที่ขาดจากภัยแล้งของสัตว์ แจกจ่ายให้แก่ 30 ชุมชนในพื้นที่ อ.ดอยเต่า โดยมีนายสุรเดช สมิเปรม ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ นายอนวัช สัตตบุษย์ นายอำเภอดอยเต่า เป็นประธานในพิธีมอบดังกล่าว ซึ่งมีตัวแทนผู้เลี้ยงโค-กระบือ จากทั้ง 30 ชุมชนเดินทางมารับมอบถังน้ำและโปรตีนสัตว์
นายสัตวแพทย์ ณฤทธิ์ศร ผลเพิ่ม ผู้จัดการฝ่ายโครงการการจัดการภัยพิบัติ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) เปิดเผยว่า เมื่อราวต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประจำประเทศไทย ร่วมกับกรมปศุสัตว์ จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าสำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้งในเขต อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เพื่อประเมินความเสียหายและเตรียมการให้ความช่วยเหลือปศุสัตว์ โดยเฉพาะโค-กระบือของชาวบ้านใน อ.ดอยเต่า หลังจากสืบทราบว่าวิกฤตภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ดอยเต่าส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโค-กระบือ จำนวนกว่า 28,000 ตัวทั่วทั้ง อ.ดอยเต่า ในด้านการขาดแคลนน้ำ และสารอาหารที่จำเป็น
“การขาดน้ำและสารอาหารในโค-กระบือ จะส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย อาจเกิดอาการประสาท อัตราการผสมพันธุ์สำเร็จต่ำ และภูมิคุ้มกันลดลง ส่งผลให้โค-กระบือ เจ็บป่วยได้ง่าย และเมื่อเจ็บป่วยก็จะอาการหนักกว่าปกติ รวมทั้งผลจากภัยแล้งที่โค-กระบือภูมิคุ้มกันต่ำอยู่แล้ว และต้องกระจุกตัวในแหล่งน้ำที่จำกัดจากความแห้งแล้ง ส่งผลให้อาจเกิดการแพร่โรคระบาดได้ง่าย ทั้งยังสามารถลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรง” น.สพ.ณฤทธิ์ศรกล่าว และเพิ่มเติมว่า
“จากการลงพื้นที่รับทราบปัญหาดังกล่าว ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประจำประเทศไทย จึงได้นำถังบรรจุน้ำขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 40 ถัง นำมาแจกจ่ายให้แก่ชุมชนผู้เลี้ยงโค-กระบือ และศูนย์อพยพปศุสัตว์ 30 ศูนย์ ให้สัตว์ได้มีน้ำกินและบรรเทาปัญหาการขาดน้ำ รวมทั้งเอื้อประโยชน์แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ที่จะขนถ่ายน้ำมาเลี้ยงสัตว์ได้อย่างสะดวก รวมทั้งยังได้มอบโปรตีนซองละลายน้ำเพื่อเสริมสร้างแร่ธาตุที่ขาดจากภัยแล้งของสัตว์ และยังได้มีการสอนการผสมโปรตีนสำหรับสัตว์อย่างง่ายและประหยัดให้แก่บรรดาเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบืออีกด้วย
นอกจากการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาภัยอย่างเร่งด่วนในครั้งนี้แล้ว องค์กรฯ ยังได้มีการวางแผนให้ความช่วยเหลือในระยะยาวอีกด้วยเพื่อลดความเสี่ยงให้กับสัตว์และชาวบ้าน โดยในอีกประมาณ 1- 2 เดือนข้างหน้านี้เราจะนำเครื่องผลิตแร่ธาตุก้อนไปให้ พร้อมสาธิตการทำเพื่อให้สัตว์ต่างๆ สามารถดำรงชีวิตผ่านสภาวะอากาศที่แห้งแล้งนี้ไปได้” น.สพ.ณฤทธิ์ศรกล่าว
เช่นเดียวกับ นายสุรเดช สมิเปรม ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปีนี้วิกฤตหนักมากอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน โดยเฉพาะก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้เลี้ยงโค-กระบือในพื้นที่ อ.ดอยเต่า ซึ่งมีพื้นที่หมู่บ้านอนุรักษ์การเลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมืองจำนวนหลายพันตัว ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่เคยมีรอบทะเลสาบดอยเต่า หญ้าและต้นไม้ต่างแห้งตาย พื้นที่โล่งเตียนและแห้งแล้ง พื้นที่ทะเลสาบดอยเต่ามีลักษณะคล้ายทะเลทราย แทบจะไร้น้ำปรากฏให้เห็น
จากสภาพปัจจุบันจะเห็นว่าโคกระบือในพื้นที่ต่างเริ่มผอมกว่าปกติ หลายตัวมองเห็นกระดูกบั้นท้าย และซี่โครงอย่างชัดเจน ซึ่งหากวัดระดับความสมบูรณ์ของวัวจาก 0-5 นับจากน้อยไปหามาก อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2.5-3 ถือว่าเริ่มอาการน่าเป็นห่วง เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย การเกิดโรคระบาด และล้มป่วยตายอย่างยิ่ง ขณะนี้ นอกจากการสนับสนุนจากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกที่ได้มอบถังน้ำและแร่ธาตุละลายน้ำให้เกษตรกรแล้ว ทางปศุสัตว์เองก็ได้ร่วมจัดเสบียงอาหารเป็นฟางและหญ้าแห้ง และโปรตีนชนิดก้อนส่วนหนึ่ง สมทบมอบแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือด้วย
ด้าน นายอนวัช สัตตบุษย์ นายอำเภอดอยเต่า กล่าวว่า ขณะนี้คาดว่าพื้นที่ อ.ดอยเต่า น่าจะแล้งกว่าทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากพื้นที่แห้งแล้ง ทุรกันดาร ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือต่างได้รับผลกระทบเดือดร้อนหนัก ซึ่งพบว่าโค-กระบือได้ล้มตายไปหลายตัวแล้วในพื้นที่ ที่ผ่านมาก็ได้มีการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ในเบื้องต้น ซึ่งสามารถเยียวยาได้ในปริมาณหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่เมื่อองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้นำถังน้ำขนาด 1,000 ลิตรและแร่ธาตุมามอบแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือ เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาได้มากและแก้ปัญหาได้ตรงจุด โดยเฉพาะถังน้ำขนาด 1,000 ลิตรนั้นขนาดกำลังพอดี สามารถบรรทุกใส่ท้ายรถกระบะได้ทุกยี่ห้อ ขนย้ายง่าย สะดวก ไม่ใหญ่หรือหนักเกินไป สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
ขณะที่นายสมชาย สมสวาท อายุ 45 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ และแกะ ในพื้นที่ ต.บ้านแอ่น อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีมานี้เดือดร้อนมากโดยเฉพาะเรื่องของน้ำดื่ม และอาหารหยาบสำหรับให้สัตว์เลี้ยงบริโภค เนื่องจากหายากมากเพราะหญ้าในธรรมชาติต่างแห้งตาย ในสถานที่เลี้ยงโค กระบือ และแกะของตนนั้น ก่อนหน้านี้ได้ใช้ระบบไฟฟ้าในการสูบน้ำจากแม่น้ำปิงเพื่อเลี้ยงสัตว์ ซึ่งปีนี้ไม่สามารถสูบได้แล้วเพราะระดับน้ำต่ำกว่าที่จะสูบได้ อีกทั้งการขนน้ำและอาหารหยาบจากที่อื่น มาเพื่อเลี้ยงสัตว์ทำให้ต้องเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายมาก เมื่อทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก สามารถช่วยผ่อนภาระเรื่องน้ำลงไปได้มาก