xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ตลาดที่อยู่อาศัยเชียงใหม่ปี 59 ไร้ห่วง ทั้งบ้านและคอนโดฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ พบบ้านจัดสรรอยู่ระหว่างขายกว่า 1.7 หมื่นหน่วย มูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้าน และคอนโดมิเนียมกว่า 7,000 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 2.3 หมื่นล้าน ระบุตลาดที่อยู่อาศัยเชียงใหม่โดยเฉพาะบ้านจัดสรรยังไปได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ส่วนคอนโดมิเนียมยังขายได้

วันนี้ (30 มี.ค. 59) ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดการสัมมนาหัวข้อ “วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ” โดยมีนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ นำเสนอข้อมูลผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยล่าสุดในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดตาก มีผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงเข้าร่วมจำนวนมาก ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ เชียงใหม่

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยข้อมูลผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยว่า จากการสำรวจข้อมูลภาคในช่วง ก.ย. - ต.ค. 2559 ครอบคลุมโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 และเป็นข้อมูลโครงการที่หน่วยเหลือขานตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป

ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่มีโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขาย 159 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันทั้งสิ้น 17,270 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 26,000 ล้านบาท และเหลือขาย 7,042 หน่วย ซึ่งสถานการณ์การก่อสร้างหน่วยในผังโครงการทั้งหมดนั้นเป็นหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จ 58% และหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 15% ส่วนอีก 27% เป็นหน่วยที่ยังไม่เริ่มสร้าง

พื้นที่ตั้งโครงการบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่นั้น กระจายอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอหลัก ได้แก่ อำเภอสันกำแพง จำนวน 34 โครงการ 4,258 หน่วย, อำเภอเมือง จำนวน 33 โครงการ 2,931 หน่วย,อำเภอสันทราย จำนวน 31 โครงการ 2,857 หน่วย และอำเภอหางดง จำนวน 30 โครงการ 3,757 หน่วย ซึ่งประเภทบ้านจัดสรรนั้น มีสัดส่วนเป็นประเภทบ้านเดี่ยว ประมาณ 70% ของหน่วยทั้งหมด,ทาวส์เฮ้าส์ 9%, อาคารพาณิชย์ 7%, บ้านแฝด 5% ส่วนที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าจัดสรร ทั้งนี้ราคาบ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-5 ล้านบาท บ้านแฝดและทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 2-3 ล้านบาท

สำหรับโครงการอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียมในจังหวัดเชียงใหม่นั้น มีโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขาย 53 โครงการ จำนวน 7,659 หน่วย รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 23,580 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 3,280 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมทั้งสิ้นประมาณ 10,340 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้านี้ที่มี 59 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมประมาณ 8,400 หน่วย และเหลือขายประมาณ 3,100 หน่วย

ทั้งนี้เป็นหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 44% และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 51% ซึ่งที่ตั้งโครงการที่อยู่ระหว่างขายในปัจจุบันนั้น อยู่อำเภอเมืองมากถึง 46 โครงการ จำนวน 6,790 หน่วย เหลือขาย 2,840 หน่วย อำเภอสันทราย 3 โครงการ 550 หน่วย อำเภอหางดง 2 โครงการ 180 หน่วย ส่วนที่เหลืออยู่ในอำเภอแม่ริม และอำเภอดอยสะเก็ด พื้นที่ละ 1 โครงการ

ส่วนภาพรวมและแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2559 นั้น นายสัมมา ระบุว่า คล้ายกับหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงขายได้และมีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ย. 58 เป็นต้นมา ที่รัฐบาลมีมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 59 และหลังจากนั้นที่อยู่อาศัยน่าจะยังมีความตื่นตัวต่อไปอีกในตลาดที่อยู่อาศัยที่ราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ตามโครงการบ้านประชารัฐของรัฐบาล

ตลาดบ้านจัดสรรของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ส่วนตัวมองว่าไม่มีความน่ากังวลใดๆ และน่าจะดีกว่าเมื่อเปรียบกับพื้นที่อื่นๆ เพราะโครงการส่วนใหญ่ถึง 88% เป็นของผู้ประกอบการท้องถิ่น ทำให้สามารถกำหนดทิศทางตลาดได้และมีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากบ้านสามารถรอสร้างได้เมื่อมีการซื้อ

ขณะที่ในส่วนของโครงการอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียมนั้น ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ บอกว่า ในช่วง 2-3 ปีมานี้การลงทุนเปิดโครงการใหม่มีการชะลอตัวลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 5 ปีที่แล้ว โดยปัจจุบันมีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขาย 7,000 กว่าหน่วย และยังมีการลงทุนโครงการใหม่เข้ามาเพิ่ม แต่อาจจะไม่มากเท่าช่วงก่อนหน้านี้

ในแง่หนึ่งส่งผลดีทำให้ตลาดค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่ภาวะดุลยภาพและทำให้ปัญหาล้นตลาดลดลงจนสู่สถานการณ์ปกติ ทั้งนี้มองว่าตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดเชียงใหม่ยังคงขายได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเปิด AEC จะยิ่งส่งผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียม เพราะชาวต่างชาติสามารถซื้อเป็นเจ้าของได้






กำลังโหลดความคิดเห็น