xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.สำนักอนุรักษ์ 2 รื้อแผนต้อนช้างกลับป่าใหม่ทั้งหมดหลัง จนท.เสียชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ฉะเชิงเทรา - ผอ.สำนักอนุรักษ์ที่ 2 เตรียมทบทวนแผนการต้อนช้างกลับป่าใหม่ทั้งหมด หลังมีเจ้าหน้าที่ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต พร้อมเตรียมเสนอหาช่องทางช่วยเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย
นายอยู่  เสนาธรรม
เมื่อเวลา 20.30 น.คืนวันที่ 2 มี.ค.59 ที่ผ่านมา นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแลพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ในภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และตราด กล่าวถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา ถูกช้างป่าแม่ลูกอ่อนทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะเข้าร่วมโครงการต้อนช้างกลับป่าเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านหนองปรือกันยาง พื้นที่ ม.5 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นตนได้รายงานไปยัง นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทราบแล้ว และจะได้ทำการทบทวนแผนการต้อนช้างกลับคืนสู่ป่าเขาอ่างฤาไน ในระดับของผู้ปฏิบัติการใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะได้มีประชุมหารือกันหลังจากการเดินทางมาร่วมเป็นเจ้าภาพงานสวดพระอภิธรรมศพ นายไพรจิตร มุขจีน อายุ 40 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวในคืนวันนี้ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

แนวทางที่ได้เตรียมเอาไว้เข้าร่วมหารือปรับแผนกันใหม่นั้น ต่อไปในการต้อนช้างกลับคืนสู่ป่านั้น อาจจะใช้เพียงกำลังของเจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเองเท่านั้น หรืออาจมีเครือข่ายชาวบ้านผู้ชำนาญป่าบางส่วนไว้เป็นกองหนุนในเรื่องของการส่งเสบียงอาหาร และน้ำ ซึ่งการผลักดันช้างกลับคืนสู่ป่าในครั้งต่อไปเราอาจจะใช้เจ้าหน้าที่ของเราเองทั้งหมด เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการประสานงานสั่งการ และควบคุมการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยไม่เกิดการสูญเสียเช่นในครั้งนี้อีก

ขณะเดียวกัน ต่อไปก่อนปฏิบัติงานจะต้องมีการแจกจ่ายคู่มือการปฏิบัติตนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ทำเอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อปี 2558 ว่า ผู้ปฏิบัติงานจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น 1 ผู้ที่จะมาต้อนช้างกลับป่านั้นต้องมีร่างกายที่แข็งแรง 2 ไม่ดื่มสุราในขณะปฏิบัติงาน 3 ต้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ครบและเพียงพอที่จะเดินทางได้ไกล และ 4 ต้องเชื่อฟังคำสั่งของหัวหน้าชุดอย่างเคร่งครัด

สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (1 มี.ค.59) เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติอาจเข้าใกล้ช้างป่ามากเกินไปหรือไม่ ซึ่งตามคู่มือนั้นการเข้าไล่ผลักดันช้างป่านั้นจะใช้เพียงเสียง และจะต้องอยู่ห่างจากช้างป่าอย่างน้อยที่สุดไม่ต่ำกว่า 50 เมตร ซึ่งหากเข้าใกล้มากไปกว่านั้น ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานขับไล่ช้างนั้น หนีไม่ทัน ประกอบกับในป่าบริเวณนี้ยังมีเถาวัลย์ขึ้นรกปกคลุมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ผู้เสียชีวิตรายนี้สะดุดเถาวัลย์หกล้มจนหนีช้างป่าไม่ทัน

ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้วิเคราะห์หาสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่มีข้อสังเกตว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เราใช้คนมากเกินไปหรือไม่ และการปฏิบัติงานมีความพร้อมเพรียงกันหรือไม่ ซึ่งทางอธิบดีฯ ได้สั่งการมาในวันนี้ว่า ให้กลับมาทบทวนแผนว่าสิ่งที่ทำไปแล้วมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ จึงทำให้มีคนตายในขณะปฏิบัติงาน โดยเฉพาะหากเราทำตามคู่มือที่ได้จัดขึ้นไว้แล้วนั้น น่าจะไม่ทำให้เกิดอันตรายในลักษณะนี้ขึ้นมาได้

ส่วนการใช้กำลังผสมจากหลายฝ่ายจะเป็นสาเหตุของการเกิดข้อผิดพลาดในครั้งนี้หรือไม่นั้น ซึ่งอยู่ในข้อปฏิบัติที่ว่า มีการเชื่อฟังคำสั่งของหัวหน้าชุดแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ จึงทำให้ต่อไปนี้เราต้องมาทบทวนว่าอาจจะต้องใช้กำลังจากเจ้าหน้าที่ของเราแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น โดยจะค่อยๆ ต้อนไล่ช้างกลับเข้าป่าไปโดยไม่ต้องรีบร้อนมากเกินไป

สำหรับการเยียวยาต่อผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ได้เข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้นไปก่อนแล้ว และได้เดินทางมาเป็นเจ้าภาพในงานสวดพระอภิธรรมศพในคืนวันนี้ จากนั้นจะได้รีบรายงานไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อขอรับเงินสวัสดิการจากกรมอุทยานฯ ในพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป พร้อมกับจะทำเรื่องขอสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อห้าจังหวัดภาคตะวันออกอีกทางหนึ่ง เพื่อที่จะนำมาใช้ในการดูแลครอบครัวของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตรายนี้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น