ฉะเชิงเทรา - ช้างป่าบุกเข้าสู่หมู่บ้านชาวไร่ใกล้แนวเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก เผยพฤติกรรมเหี้ยม ใช้งวงกระชากชาวบ้านลงมาจากที่พัก ก่อนนำมาเหวี่ยงฟาดลงกับพื้น และเหยียบซ้ำจนสิ้นใจตาย ก่อนจะกระทืบเครื่องจักรกลการเกษตรเสียหายด้วย
วันนี้ (22 ม.ค.) พ.ต.ท.บันเทิง เกาไศยนันท์ พนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจากทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จุดบ้านนาอีสาน พื้นที่ ม.16 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เกิดเหตุช้างป่าบุกเข้ามาเหยียบชาวบ้านจนเสียชีวิตถึงในไร่ ที่ด้านท้ายหมู่บ้าน ใกล้กับแนวเขตป่าสงวน หรือป่ากันชนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี) ทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิตคาที่ 1 ราย จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบร่างของ นายบุญมี อุ่นสำโรง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 428 ม.16 ต.ท่ากระดาน นอนเสียชีวิตจมพื้นดินอยู่ในที่เกิดเหตุที่บริเวณด้านหน้าเพิงพัก ซึ่งปลูกสร้างแบบถาวรด้วยไม้ยกพื้นสูงประมาณ 2 เมตร ฐานเสาคอนกรีต หลังคามุงสังกะสี สภาพมีร่องรอยถูกช้างเหยียบที่หน้าอกจนหน้าอกยุบ และที่ใบหน้ามีร่องรอยของเท้าช้างเหยียบย่ำซ้ำไปมาหลายครั้ง
นอกจากนี้ ในบริเวณโดยรอบยังพบเครื่องมือทางการเกษตรถูกทำลายเสียหาย เช่น รถอีแต๊ก (รถไถเดินตามแบบมีหางพ่วงเป็นกระบะท้าย) นั้น ถูกช้างใช้เท้าเหยียบแบบขึ้นไปขย่มจนเพลาล้อขาดหลุดพับลงมากองอยู่กับพื้นดินทั้ง 2 ล้อ
สอบถามชาวบ้านข้างเคียงห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเดินทางมานอนเฝ้าไร่เช่นเดียวกัน ระบุว่า ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ และเสียงของช้างป่าที่ออกมาอาระวาดภายในบริเวณสวนปาล์ม และไร่มันสำปะหลังของ นายบุญมี ผู้ตาย ซึ่งอยู่ห่างจากท้ายหมู่บ้านประมาณ 2 กม. และอยู่ใกล้กันกับแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือป่ากันชนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ประมาณ 500 เมตร โดยผู้ตายจะเดินทางมานอนเฝ้าอยู่ที่ไร่แห่งนี้ในทุกๆ คืน
เมื่อคืนได้ยินเสียงของช้างป่าเข้ามาวนเวียนใกล้บริเวณแนวชายป่าตั้งแต่เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.50 น. ต่อมาในเวลา 04.00 น. จึงได้ยินเสียงคนร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงช้างที่กำลังทำร้ายคน และทำลายข้าวของ แต่ชาวบ้านไม่กล้าที่จะออกมาดู หรือให้การช่วยเหลือ โดยรอจนกระทั่งรุ่งสว่างในเวลาประมาณ 06.00 น. ชาวบ้านจึงได้พากันเดินทางเข้ามาดูยังในจุดเกิดเหตุ และพบว่า ผู้ตายนั้นได้ถูกช้างป่าเหยียบกระทืบจนเสียชีวิตไปแล้ว ชาวบ้านผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เผย
ขณะเดียวกัน จากสภาพร่องรอยที่พบในบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น เชื่อว่าขณะเกิดเหตุช้างป่าเข้ามาทำลายข้าวของ และเครื่องมือทางการเกษตรภายในบริเวณเพิงพักเฝ้าไร่ของผู้ตายนั้น นายบุญมี อาจจะใช้ไฟฉายส่องดู และพบว่าเป็นช้างป่า
ขณะเดียวกัน ช้างป่าตัวดังกล่าวนี้น่าจะเป็นช้างตัวผู้ และอยู่ระหว่างตกมัน จึงได้ใช้งวงตวัดลากผู้ตายลงมาจากเพิงพัก ก่อนที่จะจับร่างของผู้ตายฟาดลงกับพื้น และใช้เท้าเหยียบย่ำซ้ำไปมา โดยใช้งวงพลิกร่างของผู้ตายกลับไปกลับมา และเหยียบจนเสียชีวิต
ด้าน นายเสริมพันธ์ สาริมาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กล่าวว่า สาเหตุที่ช้างป่าออกไปรบกวนชาวบ้านนั้น เนื่องจากขณะนี้กำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง ทำให้ช้างขาดน้ำ เพราะในเขตพื้นที่ป่ามีแหล่งน้ำ และอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากในการสำรวจล่าสุดของทางศูนย์วิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา เมื่อช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้น พบว่า ในเขตพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกนั้น มีจำนวนช้างเพิ่มขึ้นมากถึง 364 ตัวแล้ว จากเดิมมีเพียง 200 กว่าตัว
ประกอบกับช้างป่าในบริเวณนี้ยังได้เคยออกไปจากป่าอยู่เป็นประจำบ่อยครั้ง จึงได้ติดใจในรสชาติของอาหาร หรือพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ โดยทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ก็ได้พยายามแก้ไขด้วยวิธีการขุดคู หรือแนวกันช้างป่าเอาไว้โดยรอบเขตพื้นที่รวมระยะทางกว่า 100 กม.แล้ว แต่ก็ยังคงมีช้างป่าบางส่วนที่ยังสามารถเดินออกจากป่าไปได้ รวมถึงยังมีช้างป่าที่ยังคงอาศัยอยู่ในเขตป่าสงวนซึ่งอยู่นอกแนวเขตคูกันช้างที่ยังสามารถออกไปหากินกับพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ได้อีก ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ ตนเองจะเดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุ และร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
