xs
xsm
sm
md
lg

พันกว่าหมู่บ้านแล้งหนัก! ขอนแก่นปล่อยคาราวานแจกถังน้ำสู้แล้ง 150 ใบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คาราวานแจกถังเก็บน้ำในพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เผยพื้นที่จังหวัดขอนแก่นประสบภัยแล้งหนัก 1,005 หมู่บ้าน ชาวบ้านขาดน้ำกินน้ำใช้ “เอสซีจี” ร่วมกองทัพบกปล่อยคาราวานแจกถังน้ำ 150 ใบให้ชุมชนขาดน้ำเก็บกักน้ำร่วมกันใช้บรรเทาความเดือดร้อนแล้ว

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ (17 ก.พ.) ที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เอสซีจีร่วมกับกองทัพบก สำนักงานทรัพย์สินฯได้ทำพิธีปล่อยคาราวานถังน้ำในโครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” เพื่อนำไปมอบให้กับพื้นที่ตำบลต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยมอบให้เป็นถังสำหรับเก็บน้ำที่ชาวชุมชนใช้ร่วมกันบรรเทาทุกข์ในห้วงหน้าแล้งนี้

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงปัญหาภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้น ณ ขณะนี้ว่า ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก สำหรับภาพรวมปัญหาแหล่งน้ำต่างๆ ของจังหวัดขอนแก่นมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยมาก แต่ต้องระบายออกมาก ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบภัยแล้งในปัจจุบันนี้แล้วทั้งหมด 16 อำเภอ 105 ตำบล 1,005 หมู่บ้านหรือคิดเป็นร้อยละ 9.5 ของหมู่บ้านทั้งจังหวัด

ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการใช้น้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งทางจังหวัดเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากเอสซีจีในโครงการเอสซีจีรวมใจสู้ภัยแล้ง ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้มาก

นายอาสา สารสิน กรรมการและประธานคณะกรรมการกิจการสังสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี กล่าวต่อว่า ทางเอสซีจีมีความห่วงใยพี่น้องในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้เงและเล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะมีส่วนร่วมบรรเทาความเดือดร้อนนี้ จึงสานต่อโครงการเอสซีจีรวมใจสู้ภัยแล้งด้วยการมอบถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 500 ใบในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง โดยมอบให้แก่จังหวัดขอนแก่น 150 ใบ

ขณะเดียวกันยังได้ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนให้ชุมชนบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาแล้งอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการเพิ่มแหล่งน้ำสำรองในชุมชนต่างๆ เช่น ชุมชนบ้านโนนเขวา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ขุดคลองเชื่อม ขุดลอกคลอง ซึ่งสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคได้เป็นอย่างดี พร้อมกับผลักดันให้เป็นชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการน้ำชุมชนอย่างยั่งยืนเพื่อส่งต่อองค์ความรู้ไปสู่ชุมชนใกล้เคียงในโอกาสต่อไปอีกด้วย

ด้าน พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 กล่าวเสริมอีกว่า ทางกองทัพบกเองมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยแล้งเป็นอย่างยิ่ง การดูแลช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ถือเป็นนโยบายของกองทัพบกและมีความยินดีอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับเอสซีจีในการสานต่อโครงการเอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง พร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เช่น การให้บริการรถบรรทุกขนส่งน้ำ และการหาข้อมูลพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึง

“การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ไม่ได้เป็นหน้าความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น แต่ถือเป็นวาระของชาติที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน โดยเริ่มจากตัวเรา คนในครอบครัวที่ต้องตระหนักและใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่าและขยายไปยังชุมชนและภาคส่วนต่างๆ ทั้งคนที่อยู่ต้นน้ำไปจนถึงคนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำ” รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 กล่าว

ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างร่วมใจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ



กำลังโหลดความคิดเห็น