พิจิตร - ภัยแล้งยังลุกลามต่อเนื่อง ล่าสุดพบ “บึงสีไฟ” หนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำโลก แหล่งน้ำใหญ่ของประเทศ อยู่ในสภาพแห้งขอด ดินท้องบึงแตกระแหง มีน้ำเหลือเฉพาะจุดที่ลุ่มที่เคยใช้แสดงพันธุ์ปลาเท่านั้น ขณะที่ฝูงปลาน้อยใหญ่แทบไม่เหลือให้เห็น
วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บึงสีไฟ แหล่งน้ำใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ มีพื้นที่กว่า 5,300 ไร่ ตั้งอยู่กลางเมืองของเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ขณะนี้น้ำแห้งขอดเห็นดินแห้งแตกระแหง ฝูงปลาน้อยใหญ่แทบไม่มีอะไรหลงเหลือให้เห็น ในบึงก็มีแต่ป่าวัชพืช มีเพียงพื้นที่บริเวณศาลาเก้าเหลี่ยม จุดแสดงพันธุ์ปลา ซึ่งเป็นที่ลุ่มเท่านั้นที่พอมีน้ำขัง
ส่วนศาลาชมวิวกลางน้ำ หนึ่งในห้องรับแขกของชาวพิจิตร ก็อยู่ในสภาพผุพัง เทศบาลเมืองพิจิตรประกาศปิดห้ามใช้บริการชั่วคราว
ด้านนางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมงบประมาณไว้เกือบ 2 ล้านบาทเพื่อจะขุดลอกบริเวณแหล่งท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในจุดที่ตั้งของศาลากลางน้ำ แต่พื้นที่ของบึงสีไฟได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก และกรมเจ้าท่าเป็นผู้มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ดังนั้นการที่จะพัฒนาจะต้องถูกหลักเกณฑ์ EIA HIA
โดยล่าสุดจังหวัดพิจิตรได้ขอความร่วมมือจากมูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำรวจเพื่อเขียนเป็นแผนแม่บทในการพัฒนา ซึ่งจะมุ่งเน้นในการเติมน้ำเข้าบึงมากกว่าการขุดบึงสีไฟ เพราะถ้าขุดไปแล้วไม่สามารถเติมน้ำเข้าบึงสีไฟได้ก็เปล่าประโยชน์ โดยมูลนิธิอุกพัฒน์ฯ เคยมาประชุมกับผู้เกี่ยวข้องหลายครั้ง ชี้จุดทางน้ำเข้าบึงสีไฟในหลายเส้นทาง และระบุว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 นี้จะสำรวจแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้ได้แนวระดับที่สูง ที่ต่ำ ที่ลุ่ม จากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูบึงสีไฟต่อไป