ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ และภัยแล้ง เบื้องต้นพอใจการเตรียมความพร้อมรับมือ มั่นใจปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงมีเพียงพอใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค เพราะมีการวางแผนบริหารจัดการน้ำต้นทุนไว้อย่างดีแล้ว และรักษาระดับการใช้น้ำได้ตามแผน ย้ำทุกคนใช้น้ำประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด
วันนี้ (16 ม.ค.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อน และภัยแล้ง ทั้งนี้ ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการทำงานที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายจานุวัตร เลิศเจริญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ นายวุฒิชัย รักษาสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา และนายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำตรวจเยี่ยม และรายงานข้อมูลสถานการณ์
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้เพื่อตรวจดูการบริหารจัดการน้ำ และการเตรียมการความพร้อมต่างๆ เพื่อรับมือต่อสถานการณ์ เบื้องต้นพบว่าทางจังหวัดเชียงใหม่ และชลประทาน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดเตรียมข้อมูลสถานการณ์ และวางแผนในการทำงานไว้เป็นอย่างดีแล้ว
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ของจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายธีรภัทร กล่าวว่า จากข้อมูลสถานการณ์ และแผนงานที่ได้มีการดำเนินการไป เบื้องต้น เชื่อว่าในส่วนของพื้นที่ที่อยู่ติดและใช้ประโยชน์จากลำน้ำแม่ปิง สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะมีการวางแผนการบริหารจัดการน้ำต้นทุนไว้อย่างดี ซึ่งมั่นใจว่าน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ รวมทั้งใช้เพื่อการเกษตรบางส่วนจะไม่มีปัญหา ภายใต้เงื่อนไขการรักษาระดับการใช้น้ำให้ได้ตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงเพียงเรื่องคุณภาพน้ำจากการปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำปิงเท่านั้น เพราะจะส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำทันที ซึ่งจะมีการประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำชับขอความร่วมมือในการตรวจสอบดูแลเรื่องนี้
ส่วนพื้นที่ 2 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอดอยเต่า และอำเภอสันกำแพง ที่มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง จำนวนรวม 19 หมู่บ้านนั้น นายธีรภัทร บอกว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปสำรวจความเดือดร้อน และเร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว ตามมาตรการแก้ไขปัญหา และให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน ให้มีการสำรวจข้อมูลในพื้นที่ทุกหมู่บ้านทุกตำบลด้วยเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือหากเกิดปัญหา พร้อมย้ำขอความร่วมมือผู้ใช้น้ำ และเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้ด้วยดี
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 แห่ง ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และเขื่อนแม่กวงอุดมธารานั้น ภาพรวมล่าสุดมีปริมาณน้ำเหลือกักเก็บทั้งสิ้น 18.88% โดยเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 68.55 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 25.87% ของความจุอ่าง ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 31.142 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 11.84% ของความจุอ่าง
