xs
xsm
sm
md
lg

วอนช่วย! หญิงตาบอดชาวบุรีรัมย์แบกภาระเลี้ยงยาย 97 ปี และหลานพิการ มากว่า 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

น.ส.ลำเหย ประเสริฐศรี อายุ 40 ปี หญิงพิการตาบอดสนิททั้งสองข้าง ชาวอ.กระสัง  จ.บุรีรัมย์ แบกภาระ เลี้ยงดูยายวัย 97 ปี และหลานสาวพิการช่วยตัวเองไม่ได้มานานกว่า 10 ปี  วันนี้(23 พ.ย.)
บุรีรัมย์ - ชาวบ้านและญาติวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือหญิงตาบอดสองข้างชาวบุรีรัมย์ที่เลี้ยงดูยายวัย 97 ปี และหลานสาวพิการช่วยตัวเองไม่ได้มานานกว่า 10 ปี มีเพียงเงินจากเบี้ยคนพิการและเบี้ยคนชราใช้ยังชีพ 3 ชีวิต ขณะหญิงตาบอดวอนทั้งน้ำตาอยากให้ผู้ใจบุญพาไปรักษาให้ตามองเห็น เพื่อจะได้ทำงานมีอาชีพมีรายได้

วันนี้ (23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหญิงตาบอดเลี้ยงดูยายที่แก่ชรา และหลานสาวพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานกว่า 10 ปี อยู่ที่ ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงบ้านเลขที่ 107 ม.9 ต.สองชั้น อ.กระสัง พบ น.ส.ลำเหย ประเสริฐศรี อายุ 40 ปี หญิงพิการตาบอดสนิททั้งสองข้าง พร้อมด้วยนางทุม อาญาเมือง อายุ 97 ปี ยายที่แก่ชรา และ น.ส.พรรณทณี สุทินรัมย์ อายุ 25 ปี หลานสาวที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาตั้งแต่เกิด นั่งและนอนอยู่เตียงหน้าบ้านในสภาพที่น่าเวทนาสงสาร

โดยแต่ละวัน น.ส.ลำเหยจะเป็นคนแบกรับภาระดูแลทั้งยาย และหลานพิการ ทั้งหุงข้าวทำกับข้าว ซักผ้า ล้างจาน ทำความสะอาดบ้านแม้ตามองไม่เห็น โดยอาศัยความจำที่ทำบ่อยๆ และใช้มือลูบคลำช่วย แต่บางครั้งก็เดินชนข้าวของ ถูกไฟลวก และมีดบาดมือ สร้างความเวทนาสงสารแก่ชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

ส่วนเงินที่นำมาซื้อข้าวปลาอาหารประทังชีวิตมีเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการรวมกัน 3 คน เดือนละ 2,600 บาทเท่านั้น จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ตามอัตภาพ

น.ส.ลำเหยบอกว่า ตาข้างขวาบอดตั้งแต่เกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนตาข้างซ้ายยังมองเห็นเป็นปกติ ก่อนหน้านี้ได้อาศัยอยู่กับสามี และสามารถทำงานรับจ้าง ทั้งเกี่ยวข้าว ตัดหญ้า เสิร์ฟอาหารและรับจ้างทั่วไป มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว แต่เมื่อประมาณปี 2550 หลังจากไปผ่าตัดต้อหินก็ไม่ได้ไปตรวจรักษาตามที่หมอนัดอีก เนื่องจากไม่มีเงินค่าจ้างรถไปโรงพยาบาล จึงทำให้ตาบอดสนิททั้งสองข้างจนถึงปัจจุบัน และหลังจากตาบอดทั้งสองข้างสามีก็ทิ้ง จึงได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านยาย จากนั้นต้องรับภาระเลี้ยงยายที่แก่ชรา และหลานสาวที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาตลอดจนถึงทุกวันนี้ แม้ตาจะมืดบอดมองไม่เห็นก็ตาม

น.ส.ลำเหยยังกล่าวทั้งน้ำตาด้วยว่า อยากวิงวอนให้ผู้ใจบุญพาไปผ่าตัดรักษาตาที่บอดให้กลับมามองเห็นเป็นปกติเพื่อจะได้ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ทั้งยายที่แก่ชรา และหลานที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพราะลำพังเบี้ยคนพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ไม่เพียงพอเลี้ยงดูทั้ง 3 ชีวิตได้ ทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างลำบาก

ขณะที่ นางระนัย เทศเรียน และนางพานยิน ตรวจมรรคา ญาติและเพื่อนบ้านของ น.ส.ลำเหย หญิงพิการตาบอด บอกว่า รู้สึกเวทนาสงสารนางลำเหย เพราะลำพังตัวของ น.ส.ลำเหยเองก็พิการตาบอดมองไม่เห็น แต่ต้องมาแบกรับภาระเลี้ยงดูยายที่แก่ชรา และหลานสาวที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ซึ่งตนและเพื่อนบ้านก็หยิบยื่นให้ได้ในบางครั้งเท่านั้น เพราะญาติและเพื่อนบ้านมีฐานะยากจนต้องหาเช้ากินค่ำเช่นกัน

จึงอยากวิงวอนผู้มีจิตศรัทธาได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ น.ส.ลำเหย ยายชรา และหลานสาวที่พิการดังกล่าวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าทุกวันนี้ หากเป็นไปได้ก็อยากให้พา น.ส.ลำเหยไปผ่าตัดรักษาดวงตาให้สามารถมองเห็น เพื่อจะได้ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง และยาย หลานอีก 2 ชีวิตด้วย

ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการจะช่วยเหลือ น.ส.ลำเหย ที่พิการตาบอดทั้งสองข้าง และยายหลานที่พิการ สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี น.ส.ลำเหย ประเสริฐศรี เลขที่บัญชี 740-2-63051-8 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขากระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ หรือติดต่อผ่าน นางระนัย เทศเรียน ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-1113-9771





กำลังโหลดความคิดเห็น