เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลและเกิดกระแสวิจารณ์ในทางลบจนชาวเน็ตส่วนใหญ่รับไม่ได้ หลังแชนแนลยูทิวบ์ รายการ MEMO 7 Sisters ได้เผยแพร่คลิปความยาวประมาณ 18 นาที กับ Mission1 น้ำ (รัก)แห่งสยาม "เมื่อเน็ตไอดอลชวนหนุ่มๆน้ำแตกกลางสยาม" ซึ่งขณะนี้มีผู้คลิกเข้าไปดูเกือบล้านเข้าไปแล้ว
โดยเนื้อหาในคลิปวิดีโอเป็นการปฏิบัติภารกิจของหญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่ท่าทียั่วยวน 7 คน เดินตระเวนชักชวนหนุ่มๆร่วมภารกิจรีดน้ำอสุจิ และเมื่อเจอผู้ชายก็วิ่งโผเข้าไปกอดคอ เกาะแขน ถูกเนื้อต้องตัว ด้วยท่าทีแทะโลม บริเวณใจกลางสยามสแควร์ หวังให้มาร่วมบริจาคน้ำอสุจิเพื่อให้คนที่มีบุตรยาก ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่จะปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ยังมี 4 หนุ่มใจกล้า เข้าไปช่วยตัวเองรีดน้ำอสุจิในกระโจมที่ใช้ผ้าสีดำสี่เหลี่ยมจัตุรัสล้อมไว้แค่ระดับเอว โดยจะเห็นสีหน้าระหว่างการช่วยตัวเอง พร้อมยื่นแก้วใส่น้ำอสุจิออกมาให้ด้วย
ภารกิจนี้ต้องการทดสอบว่า เมื่อเพศหญิงเข้ามาจู่โจมเพศชายแบบหื่นกามอย่างโจ๋งครึ่ม ฝ่ายชายจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อผู้หญิงเหล่านี้ ทั้งนี้ได้มีการเฉลยในตอนท้ายคลิปวิดีโอด้วยว่า เป็นการจัดฉากขึ้นมา ทว่า ความคิดเห็นส่วนใหญ่ในเพจเฟซบุ๊กสุดฮอต Drama-addict สับเละทั้งพิธีกรคนทำเบื้องหลัง พร้อมทั้งต่อว่าทีมงานรายการ ว่าเป็นรายการอนาจารในที่สาธารณะอย่างโจ๋งครึ่ม ขนาดผู้ชายเองยังรับรายการแบบนี้ไม่ได้
“ถ้าไม่แรง คุณก็ไม่ดู” โปรฯ ชี้อยากให้ผู้หญิงกล้าพูดเรื่องเพศ!
โปรดิวเซอร์ของรายการ MEMO 7 Sisters ได้ออกมาชี้แจงผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า คอนเซ็ปต์ของรายการจริงๆ คืออยากให้สาวๆ 7 คนนี้ เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่กล้าจะพูดถึงเรื่องเพศ แต่ที่เราเสนออาจจะดูแรงไปหน่อย แต่ถ้ามันไม่แรง คุณก็ไม่ดู
อย่างเทปแรกที่เราทำไปเรื่องบริจาคอสุจิ เรามีเฉลยในตอนท้ายแล้วว่า เราไม่ได้ทำจริงๆ เพียงแค่เขย่าขวดนมเท่านั้น และมีบางคนนำคลิปไปตัดต่อโดยไม่ได้ตัดตอนท้ายที่เฉลยมาด้วย ทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งการบริจาคจริงๆ ทางรายการทราบดีอยู่แล้วว่าต้องทำในโรงพยาบาลเท่านั้น และผู้ชายทั้ง 4 คนที่เห็นในคลิปเป็นเอ็กซตร้าที่เตรียมมา เราทำเพื่อความสนุกสนาน อยากให้ผู้ชายดูสาวๆ เหล่านี้เพื่อความบันเทิงว่าจะมาทำภารกิจโน้นนี่นั้นทำไปเรื่อยๆ คล้ายกับกลุ่มเฟดเฟ้ ที่เป็นในมุมของผู้ชาย
สุดท้าย โปรดิวเซอร์ยังฝากถึงชาวเน็ตให้ลองเปิดใจยอมรับ เข้าใจว่ารายการมันแรง คนไทยรับไม่ได้ ทำให้ผู้หญิงดูแย่ แต่ถ้าคุณได้ดูถึงตอนจบจริงๆ ความหมายของเราคือต้องการบอกว่า การบริจาคอสุจิมีประโยชน์ ทำให้มีหนึ่งชีวิตขึ้นมา แต่รูปแบบของเราอาจจะแรงไป ก็ขอน้อมรับคำติชมทุกอย่าง เราก็จะนำมาเอาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น คำนึงถึงสังคมให้มากขึ้น
พิธีกรผู้หญิงลดค่าตัวเอง ผู้ชายร่วมรายการกลายเป็นตลกวัตถุทางเพศ
เราลองมาฟังมุมมองของนักวิชาการด้านสื่อ ธาม เชื้อสถาปนศิริ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับรายการนี้บ้าง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมในการจะมาทำรายการโทรทัศน์ เวลาเราจะพูดถึงเรื่องสเปิร์มในรายการทีวี มันมีมิติเดียว คือพูดในเชิงการแพทย์ สุขภาพ และสุขภาวะอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งในสังคมไทย การพูดเรื่องสเปิร์มจะพูดในที่สาธารณะ เช่น คุณหมอ ในเชิงสุขภาพเท่านั้น ถ้ารายการเอามาทำแบบนี้ พูดเรื่องเพศในที่สาธารณะ ไม่ได้ไปในเชิงสุขภาพ และลักษณะรายการก็จะมีลูกล่อลูกหลอก แต่งกายวาบหวิว วาบหวาม การใช้คำพูดสองแง่สองง่าม ลามกอนาจาร สัปดน มันเป็นเรื่องต้องห้ามในสังคมไทยอย่างมากเลย
ปกติผู้ชายไทยถ้าบริจาคเชื้อสเปิร์มเขาต้องทำเป็นแบบแผน และมาตรฐาน และไม่ใช่พื้นที่เปิดเผยแบบนี้ รายการนี้จึงไม่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ตั้งใจจริงๆ ของรายการ แต่จุดขาย คือ ความลามก สัปดน สองแง่สองง่ามมากกว่า
a
ทว่า ผู้ร่วมรายการยังถูกลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วย ทำให้ดูกลายเป็นตัวตลก กลายเป็นวัตถุทางเพศในรายการนี้เท่านั้น
การตกเป็นวัตถุทางเพศใม่ใช่แต่เฉพาะผู้ชายที่ถูกขอให้ทำภารกิจในพื้นที่ปิดซึ่งเป็นผ้าล้อมไว้เท่านั้น ผู้หญิงทั้งหมดในรายการที่แต่งกายวาบหวิว ที่มาหัวเราะต่อกระซิก ก็ยังทำให้ตัวเองถูกลดค่าลงด้วย
นอกจากนี้ ยังละเมิดสิทธิของผู้อื่น บนพื้นที่สาธารณะอย่างร้ายแรง เพราะเรื่องเพศสัมพันธ์ หรือเรื่องสเปิร์ม ในสังคมไทยพูดได้แต่ในเชิงมิติสุขภาพ และพื้นที่ปิดเท่านั้น
ที่สำคัญจุดมุ่งหมายของการได้สเปิร์มมา ต้องทำในพื้นที่ปิด เพราะเขามองบุคคลเหล่านั้นเป็นคนที่เป็นคนที่อยู่ในสถานภาพทางการแพทย์ สุขภาวะอนามัยเจริญพันธุ์ ไม่ใช่คนที่มองเรื่องเพศในลักษณะเพศวิถี”
บริจาคน้ำอสุจิ ต้องทำตามหลักแพทย์ในโรงพยาบาลเท่านั้น
ส่วนในเรื่องการบริจาคน้ำอสุจิไม่สามารถทำได้สุ่มสี่สุ่มห้า ต้องทำตามหลักการแพทย์และความปลอดภัย
รศ.นพ. สมบรูณ์ คุณาธิคม ภาควิชาสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ให้ข้อมูลไว้ในเว็บมหิดลว่า สำหรับอสุจิบริจาคเรามีมานานแล้ว โดยที่โรงพยาบาลศิริราชก็จะมีธนาคารอสุจิ คือ สถานที่เก็บอสุจิที่บริจาคแล้วมาแช่แข็งเก็บไว้ สำหรับใช้ในกรณีที่คู่สมรสที่สามีเป็นหมัน
จริงๆ แล้วการบริจาคอสุจิมีมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี แต่ในระยะแรกเราจะใช้อสุจิสดๆ แต่ในระยะหลังเนื่องจากมีปัญหาเรื่องโรคเอดส์ เพราะฉะนั้นในปัจจุบัน เราจึงจะใช้อสุจิแช่แข็งทั้งหมด คนที่จะบริจาคอสุจิ เราจะเก็บไว้ 6 เดือน เราจะเจาะเลือดผู้บริจาคเพื่อตรวจหาเชื้อเอดส์ ถ้าไม่มีเชื้อเอดส์ก็จะแสดงว่าในช่วงที่เก็บอสุจิจะไม่มีปัญหาเรื่องโรค สำหรับอสุจิบริจาคโดยทั่วไป เราจะต้องแน่ใจว่าผู้บริจาคจะไม่มีโรคทางพันธุกรรม โรคทางเพศสัมพันธ์ มีสติปัญญาดี
ส่วนเรื่องการบริจาค ปัจจุบันเราได้จากนักศึกษาแพทย์ ซึ่งเพียงพออยู่แล้ว ไม่ได้รับทั่วไปเนื่องจากจะยากต่อการติดตามผล สืบประวัติ ซึ่งส่วนใหญ่นักศึกษาแพทย์มักจะต้องมีการตรวจร่างกายก่อนเข้ารับการศึกษาโดย ละเอียดอยู่แล้ว คนที่บริจาค ก่อนที่บริจาคจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 3 วันขึ้นไป โดยทั่วไปเราจะดูเรื่องของจำนวน อย่างน้อย 40 ล้านตัวต่อซีซีขึ้นไป อัตราการเคลื่อนไหวของอสุจิจะต้องมากกว่าร้อยละ 50”
เห็นไหมว่าการบริจาคอสุจิไม่ใช่ซี้ซั้วชักว่าว และกระฉูดกันในที่สาธารณะ หากต้องมีการเตรียมตัว กระบวนการตรวจสอบ และทิ้งช่วงระยะเวลาเพื่อความปลอดภัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การเร่ขอน้ำกาม นอกจากไม่ตอบโจทย์ดึงให้ผู้หญิงลุกขึ้นมากล้าพูดเรื่องเพศแล้ว ยังกลับทำให้คนเบื้องหน้าและเบื้องหลังดูถูกดูแคลนด้อยสมองเบาปัญญาไปซะงั้น
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...
Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754