xs
xsm
sm
md
lg

เขื่อนใหญ่วิกฤต ปริมาณน้ำลดฮวบ "บิ๊กตู่"ห้ามชาวนาประท้วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ทั่วประเทศแล้งหนัก หลายเขื่อนใหญ่เข้าขั้นวิกฤต ปริมาณน้ำลดลงฮวบ เผย "เขื่อนลำตะคอง" งดส่งน้ำช่วยนาปี 5 อำเภอโคราช "เขื่อนลำพระเพลิง" งดปล่อยน้ำ ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ แนะลุ่มน้ำแม่กลอง 7 จังหวัดใช้น้ำอย่างประหยัด หลังน้ำ 2 เขื่อนเหลือน้อย "ประยุทธ์"เบรกชาวนา ห้ามออกมาประท้วง ยันรัฐกำลังดูแลอยู่ แต่จะให้ได้ดั่งใจคงไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 มิ.ย.) โครงการชลประทานนครราชสีมารายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางของ จ.นครราชสีมา ล่าสุดในส่วนของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 โครงการมีปริมาณน้ำ 483 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุเก็บกักรวม 948 ล้าน ลบ.ม. โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว แหล่งน้ำสำคัญของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำเหลือ 75.77 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 24 ของความจุ 314.49 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกันมีปริมาณน้ำในอ่าง 165 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 52.54 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ เพื่อให้มีน้ำเหลือใช้ในการอุปโภคบริโภค ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ โครงการฯ ลำตะคองจึงขอเลื่อนแผนการส่งน้ำช่วยเหลือนาปี 2558 ออกไปไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น เขื่อนลำตะคองมีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้น มีน้ำต้นทุนมากขึ้นและพ้นจากภาวะความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจเกิดขึ้น

นายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง กล่าวว่า ล่าสุดเขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำใช้การได้อยู่ที่ประมาณ 60 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 19% ของความจุเขื่อนทั้งหมด 314.49 ล้าน ลบ.ม. จากสถานการณ์ปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งก็ตกอยู่ในพื้นที่ท้ายอ่างฯ จึงทำให้ไม่มีปริมาณน้ำที่เป็นน้ำท่าไหลเข้าอ่างฯ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บ เพียงแต่จะเป็นผลดีต่อปริมาณน้ำตามลำคลองต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย

"หากหลังวันที่ 25 มิ.ย.นี้ที่กรมอุตุฯ ได้คาดการณ์ไว้ว่าในพื้นที่ จ.นคราชสีมา จะเกิดฝนทิ้งช่วง ก็จะทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่นั้นมีไม่เพียงพอ เนื่องจากในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้ไป มีความต้องการใช้น้ำอยู่ที่ประมาณ 108 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้น ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการออกประกาศดังกล่าว"


ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำหลักอีก 4 แห่ง พบว่า อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีประมาณน้ำเหลือ 30 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุเก็บกัก 109 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้ทางเขื่อนงดการปล่อยน้ำโดยสิ้นเชิง , เขื่อนมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 54.61 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 38.73 ของความจุเก็บกัก 241 ล้าน ลบ.ม. , เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 101 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 36.84 ของความจุเก็บกัก 275 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีประมาณน้ำเหลือ 51.65 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 52.70 ของความจุเก็บกัก 98 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 22 โครงการของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 111.78 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 49.30 ของความจุเก็บกักรวม 226.74 ล้าน ลบ.ม.

**น้ำ 2 เขื่อนยักษ์ที่กาญจน์จ่อวิกฤต

นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า เขื่อนศรีนครินทร์ขอความร่วมมือไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำแม่กลองทั้ง 7 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม และ จ.สมุทรสาคร ใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและร่วมกันประหยัดน้ำเพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอใช้ เนื่องจากระยะนี้ฝนยังทิ้งช่วงปริมาณน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ยังไม่มากเพียงพอ

**"อ่างสียัด"สั่งหยุดปล่อยน้ำแล้ว

นายเชษฐา ดิษยมาลย์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองสียัด ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 2 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำคลองสียัดซึ่งมีความจุ 420 ล้าน ลบ.ม.ขณะนี้มีน้ำคงเหลืออยู่ภายในอ่างอยู่เพียงร้อยละ 10.16 หรือประมาณ 42.68 ล้าน ลบ.ม.และมีน้ำที่สามารถใช้ได้เพียง 12.6 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น และตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้หยุดทำการปล่อยน้ำช่วยเหลือเกษตรกรในการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก แต่จะยังคงปล่อยระบายน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงระบบนิเวศและการอุปโภคของประชาชนต่อไปอีกในปริมาณ 3 แสน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งน้ำที่เหลือในอ่างทั้งหมดจะสามารถหล่อเลี้ยงระบบนิเวศในพื้นที่ได้อีกเพียง 42 วันเท่านั้น

**เขื่อนป่าสักมีน้ำหลือไม่ถึง 10%

ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนได้ลดต่ำกว่าประตูระบายน้ำทั้ง 7 บานจนขณะนี้น้ำไม่สามารถไหลผ่านสปริลเวย์ได้แล้ว โดยมีปริมาณน้ำในเขื่อนเหลืออยู่เพียง 84.96 ล้าน ลบ.ม.หรือเหลืออยู่เพียงร้อยละ 8.85 เท่านั้น

นายปัญญา กัลปสุข ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สำนักชลประทานที่ 10 กล่าวว่า ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้อยู่ท้ายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์รวม 3 จังหวัดประกอบด้วย จ.สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานีให้ชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปีออกไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนจะดีขึ้น

***ลั่นห้ามชาวนาออกมาประท้วง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า ขณะนี้น้ำไม่มี ก็จะเอาให้ได้ ต้องมองข้อเท็จจริงว่าจะเอาน้ำมาจากที่ใด เพราะเห็นอยู่ว่าแม่น้ำทุกแห่งต่างแห้งไปหมด ฝนไม่ตก น้ำในเขื่อนก็ไม่มี แต่จะเอาน้ำ ใครจะทำให้ได้ ต้องมองว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ และต้องหามาตรการดูแล คนที่ปลูกพืชไปแล้วทั้งที่ห้ามปลูก เมื่อเสียหายรัฐบาลต้องชดเชยดูแล แล้วถามว่าคนที่เชื่อรัฐบาลไม่ได้ปลูกจะทำอย่างไร ก็ต้องไปดูแลเขาอีก เพราะเสียโอกาส ส่วนที่เหลือเดี๋ยวก็ตามกันมาเป็นแถวๆ ตนอยากจะรู้ว่าจะเอาเงินจากที่ใด

"คิดในเรื่องมาตรการเยียวยาทุกอย่าง แต่ปัญหาอยู่ที่จะเอาเงินจากไหน แล้วก็ถูกวิจารณ์ว่าใช้เงินมาก แล้วจะแก้ไขอะไรได้สักอย่างหรือไม่ ไอ้โน้นไอ้นี่ก็จะเอา แต่ไม่ฟังเหตุผลว่าเราก็ทำ และอย่าไปปลุกเขาให้ออกมาเดินขบวนประท้วง ออกไม่ได้ เรื่องนี้ได้ให้ทุกคนไปทำความเข้าใจแล้ว ขอร้องว่าอย่าออกมาและอย่าให้ต้องบังคับใช้กฎหมาย ไม่ได้ขู่ แต่อย่ามาบังคับตน เพราะจะดูแลให้แต่ถ้ามาบังคับ ก็ดูแลไม่ได้"

ส่วนการผันน้ำนั้น มีแผนอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่คิด น้ำในแม่น้ำโขง สาละวิน แม่น้ำยม เขาคิดหมดแล้ว ถามว่าการดำเนินการในแม่น้ำโขง เขาใช้เงิน 2 ล้านล้าน เฉพาะโครงการเดียว ไปหาเงินมาแล้วตนจะทำให้ในวันนี้เลย ต่อจากนี้แม่น้ำอื่นก็ต้องใช้เงินอีกหลายหมื่นล้านก็ไปหามา ต้องเขียนแบบนี้ให้ตน ไม่ใช่ไม่รู้ ไม่คิด แก้ไขปัญหาไม่เป็นทำไม่ถูก แล้วตอนมันอยู่ ทำไมไม่ทำกัน

***วอนอย่าเรียกร้องจนทำไม่ได้

เมื่อถามว่าได้รับรายงานหรือไม่ว่าปัญหาภัยแล้วจะส่งผลกระทบต่อการปลูกข้าวในปีนี้อย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ต้องรายงาน ลองคำนวณดูว่านาข้าวมีเท่าไร คนปลูกข้าวมีเท่าไร ตัวเลขการปลูกข้าวในรอบแรกได้รับความเสียหายไปแล้วประมาณ 4 ล้านไร่ และยังไม่ได้ปลูกอีกเท่าไร เราต้องดูว่าชาวนาทั้งหมดเดือดร้อนอย่างไร ส่วนพืชอื่นๆ จะมีปัญหาตามมาหรือไม่ น้ำประปา อุปโภคบริโภค และปัญหาน้ำเค็มจะมีปัญหาหรือไม่ เราต้องสอนการรับรู้ให้ประชาชนด้วย ให้เขาระวังและเตรียมการช่วยตัวเอง รัฐบาลจะช่วยเท่าที่สามารถทำได้ แต่จะทำให้ได้มากที่สุด แต่ถ้ามาเรียกร้องอย่างเดียวก็แก้ไม่ได้ รัฐบาลไหนก็แก้ไม่ได้ ตนก็ยอมรับว่าแก้ไม่ได้ถ้าทุกคนมาเอาทุกอย่างในเวลาเดียวกันทั้งหมด แล้วกดดันทุกอย่าง ถ้าเป็นอย่างนั้นตนก็ไม่ต้องเข้ามา แล้วให้รัฐบาลปกติทำไป เขาทำได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น