กาญจนบุรี - โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 และคณะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล พร้อมประชาชนชาวกาญจนบุรี ร่วมพิธีแห่รูปเหมือนองค์ยืนขนาด 1.5 เมตร ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ได้เททองเมื่อ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำขึ้นประดิษฐาน ณ ศาลาสมเด็จหน้า รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เพื่อทำพิธีมังคลาภิเษก และสมโภชในวันที่ 20-21 ธ.ค.58 นี้อย่างยิ่งใหญ่
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา นายแพทย์อิทธิพล จรัสโอฬาร ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นายวิโชค ศรีกุศลานุกูล ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 นายแพทย์จิรพจน์ วงศ์สัจจาธิติ รอง ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 และคณะเจ้าหน้าที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 จัดริ้วขบวนแห่พระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ได้เททองไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้ร่วมชื่นชมพระบารมีก่อนที่จะนำขึ้นประดิษฐาน ณ ศาลาสมเด็จ หน้า รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เพื่อทำพิธีมังคลาภิเษก และสมโภชในวันที่ 20-21 ธันวาคม 2558 รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 พิธีแห่เริ่มจากหน้า รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 อ.ท่าม่วง เข้าไปในตลาดอำเภอท่าม่วง จากนั้นมุ่งหน้ามาตามถนนแสงชูโต เข้ามาในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เป็นระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร
จากนั้นตั้งขบวนที่บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถ.หลักเมือง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ขบวนไดแห่ประชาสัมพันธ์เข้าไปในตลาดผาสุก ออกถนนอู่ทอง มาถนนแสงชูโต โดยมีประชาชน รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของต่างพนมมือไหว้ด้วยความศรัทธาที่มีต่อสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เพราะพระองค์ท่านมีชาติภูมิเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี โดยกำเนิด ขบวนแห่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จพิธี
นายแพทย์อิทธิพล จรัสโอฬาร ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เปิดเผยว่า ตามที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ได้จัดพิธีเททองหล่อพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ยืนขนาด 1.5 เท่าของพระองค์ เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2558 เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ ศาลาสมเด็จ บริเวณด้านหน้าของโรงพยาบาลฯ
โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำเพื่อถวายเป็นพระเกียรติยศแด่พระองค์ท่าน และเพื่อเป็นที่สักการะของประชาชนทั่วไป ซึ่งทางโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 จึงจัดให้มีขบวนแห่พระรูปเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอท่าม่วง ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง ต.ท่าเรือพระแท่น อ.ท่ามะกา และในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ได้ร่วมชื่นชมพระบารมี ก่อนจะนำมาประดิษฐานไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เพื่อทำพิธีมังคลาภิเษก และสมโภชในวันที่ 20-21 ธันวาคม 2558 โดยพิธีแห่เริ่มตั้งแต่วันนี้ 7 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 9 พ.ย.58 รวม 3 วัน
สำหรับพิธีมังคลาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค.เริ่มเวลา 13.09 น. ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 โดยมีคณะพระเถระเมตตานั่งปรกอธิษฐานจิต ประกอบด้วย 1.พระราชรัตนวิมล เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี 2.พระครูอดุลพิริยานุวัตร หรือหลวงพ่อชุบ เจ้าอาวาสวัดวังกระแจะ อ.ไทรโยต 3.พระครูสุภัทรกาญจนกิจ หรือหลวงพ่อสนองชาติ เจ้าอาวาสวัดเย็นสนิทธรรมาราม 4.พระครูพิศาลวิริยกิจ หรือหลวงพ่อเสงี่ยม เจ้าอาวาสวัดบ้านทวน อ.พนมทวน และ 5.พระครูสุวรรณศิลาธิคุณ หรือหลวงพ่อพูล จากวัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับวัตถุมงคลที่ให้ประชาชนทั่วไปจองไปบูชา เช่น รูปหล่อจำลองจากพระองค์จริง (ขัดสมาธิเพชร) ขนาด 1.5 เซนติเมตร รุ่นสมโภชพระรูป วันที่ 21 ธ.ค.2558 บรรจุเส้นพระเกศา และผ้าจีวร จำนวนที่จัดสร้างเนื้อทองคำ 96.5 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนักประมาณ 24 กรัม ราคา 45,000 บาท เนื้อเงิน 99.99 เปอร์เซ็นต์ ราคา 1,999 บาท ทองแดง ราคา 299 บาท จำนวนสร้าง 20,000 องค์
เข็มกลัด 499 บาท ที่ระลึกวาระฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พิธีมังคลาภิเษก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
นอกจากนี้ ยังมีเหรียญเม็ดแตง ราคา 2,000 บาท ที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 20 เม.ย.2532 พิธีมังคลาพิเษก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เหรียญรุ่นแรกที่สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 16 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพระผงสมเด็จพระไพรีพินาศ ปี 2558 ราคา 100 บาท พิธีมังคลาภิเษก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
รายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนเพื่อก่อสร้างศาลามณฑปที่ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 และหาทุนเพื่อนำไปก่อตั้งมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ขึ้นมาเพื่อนำดอกผลที่ได้มาดูแลซ่อมแซมตึกสมเด็จพระสังฆราช ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 อ.ท่าม่วง
ด้าน ด.ต.สำราญ เที่ยงตรง ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้รับมอบหมายหน้าที่จากผู้บังคับบัญชาให้มาทำหน้าที่ขับรถนำขบวนแห่โดยมากับ ร.ต.ท.กฤติกร อุณหกานต์ รอง สว.จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ด.ต.จิรโรจน์ เกียรติซิมกุล ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อรถขบวนแห่พระรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชมาถึงมาถึงบริเวณถนนหลักเมือง จนจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกโดยถ่ายเอาไว้เพียงแค่ภาพเดียว จากนั้นจึงเปิดดูภาพถ่ายว่าจะชัดหรือไม่ แต่เมื่อขยายภาพดูปรากฏว่า ภาพที่ตนถ่ายมีลักษณะรูปเหมือสมเด็จพระสังฆราช ที่อยู่บนรถแห่ขบวน ไปปรากฏอยู่บนต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่ตนถ่ายภาพ ครั้งแรกที่ตนเห็นภาพรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นทันที
จากนั้นจึงนำภาพดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ที่มาร่วมเดินแห่ขบวนดูทุกคนต่างรู้สึกขนลุกซู่เช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่นำขบวนต่างก็มาดู เมื่อทุกคนเห็นภาพต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาจจะเป็นเพราะปาฏิหาริย์ของสมเด็จพระสังฆราชฯ ก็เป็นได้ นอกจากนี้ ทุกคนต่างให้ตนส่งภาพดังกล่าวเข้าไลน์ส่วนตัว เพื่อส่งต่อให้แก่เพื่อน และครอบครัวได้ดู ส่วนตนก็จะเก็บภาพดังกล่าวเอาไว้เป็นที่ระลึกต่อไป
รายงานข่าวว่า สำหรับพระรูปเหมือนของสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 รวมฐานด้วยสูง 3 เมตร น้ำหนัก 1,500 กิโลกรัม โดยนำขึ้นไปตั้งเอาไว้บนรถยูนิม็อกของ ร.29 พัน 2 กรมทหารราบที่ 9 ค่ายสุรส์ห์ ที่ประดับด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงามแห่ไปรอบเมือง