นครปฐม - หนุ่มซิ่งเก๋งแหกโค้งพุ่งชนรถ จยย.อัดซ้อน 4 ดับสยองคอหักคาที่ 2 ศพ สาหัสอีก 2 ราย กลางถนนสายตาก้อง-ดอนตูม ส่วนคนขับเก๋งเผยขับรถยนต์เก๋งออกจากตัวเมืองเพื่อจะไปหาพ่อแม่ที่บ้านลำท่าโพธิ์ด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนที่มืด และเป็นทางโค้ง ทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งเข้าไปชนกับจักรยานยนต์ที่ผู้ตาย และได้รับบาดเจ็บนั่งซ้อนท้ายกันมา 4 คน
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (5 พ.ย.) พ.ต.ท.ธนิศร เอกรัตนณัฐ พนักงานสอบสวน สภ.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่ถนนสายตาก้อง-ดอนตูม บริเวณ ม.7 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศษลานุเคราะห์นครปฐม
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 ก่อนถึงวัดพะเนียงแตกล ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม ซึ่งกำลังมีการทำถนนขยายผิวการจราจร เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางประภาศรี ห้วยหงส์ทอง อายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงยีนส์ นอนคว่ำหน้า สภาพคอหัก และมีร่องรอยฟกช้ำหลายแห่ง และนายลิน ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาน 40 ปี สวมกางเกงลายสกอตขาสั้น เสื้อยืดสีขาว แจ็กเกตสีดำ สภาพคอหัก และมีบาดแผลฉกรรจ์บนใบหน้า
ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียนป้ายแดง 1-045 นครปฐม จอดอยู่สภาพพังยับทั้งคัน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย คือ น.ส.สุรินทร์ เพ็งกลัด อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.10 ต.มาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม และ น.ส.ส้ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี ทั้งคู่ขาหัก และบอบช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ได้เร่งส่งตัวไปทำการปฐมพยาบาลที่ รพ.ศูนย์นครปฐม
ห่างไปประมาณ 150 เมตร พบคู่กรณีเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นอีคาร์ สีเขียว หมายเลขทะเบียน กน 1425 นครปฐม จอดอยู่ข้างทาง สภาพประตูหน้าหลังฝั่งซ้ายคนนั่งถูกชนอย่างแรงจนยุบไปทั้งแถบ มี นายทศวรรษ วรรณมณฑา อายุ 29 ปี เป็นผู้ขับขี่ มีบาดแผลที่ศีรษะนั่งรอรับการปฐมพยาบาลด้วยอาการตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายทศวรรษ ได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวออกจากตัวเมืองเพื่อจะไปหาพ่อแม่ที่บ้านลำท่าโพธิ์ เขต อ.ดอนตูม จ.นครปฐม โดยได้ขับมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนที่มืด และเป็นทางโค้ง รถได้เกิดเสียหลักพุ่งเข้าไปชนกับจักรยานยนต์ที่ผู้ตาย และได้รับบาดเจ็บนั่งซ้อนท้ายกันมา 4 คน หลังไปหาอาหารรับประทานและกำลังจะไปทำงานเป็นเด็กยกของ และพนักงานเสิร์ฟที่โต๊ะจีนในเขตพื้นที่ ม.10 ต.มาบแค ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บทันทีในที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการเคลียร์ศพ และนำผู้ได้รับบาดเจ็บ และผิวการจราจรนานถึง 3 ชั่วโมงเศษ เนื่องจากมีการก่อสร้างขยายผิวการจราจรบนถนนสายดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมสอบปากคำ นายทศวรรษ และพยานที่รอดชีวิตถึงเหตุการณ์อีกครั้ง ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป