xs
xsm
sm
md
lg

กปน.ปลื้มประชาชนใส่ใจปัญหาภัยแล้ง เฉลี่ยใช้น้ำลดลง 48 ล้านลิตร/วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คำที่ว่า “เปลี่ยนวิกฤต เป็นโอกาส” คงจะนำมาใช้ได้ดีกับสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าขณะนี้ ปัญหาภัยแล้งอาจจะหยุดไปชั่วคราวเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน แต่อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็ยังคาดว่าฤดูแล้งปีหน้า ประเทศไทยต้องเจอกับปัญหาการขาดแคลนน้ำอีกอย่างแน่นอน

นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ภัยแล้งเริ่มส่งผลกระทบอย่างรุนแรงจนเป็นข่าวใหญ่ นั่นก็คือ การที่น้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาในคลองของบางจังหวัดแห้งขอด จนประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีน้ำประปาใช้ แม้เหตุการณ์นี้จะเป็นวิกฤติ แต่ถ้ามองในอีกแง่มุมหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นโอกาสสำคัญ ที่ทำให้ประชาชนเริ่มหันมาสนใจ และตระหนักรู้ถึงปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำของประเทศไทยอย่างจริงจัง

โดยจะเห็นได้จากผลสำรวจของการประปานครหลวง (กปน.) ที่ได้จัดทำฐานข้อมูลเพื่อหาปริมาณน้ำใช้เฉลี่ยของประชาชน (Water Used per Capita) ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลล่าสุดของปี 2558 ได้ผลลัพธ์เกินความคาดหมายว่า ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ 3 จังหวัดของ กปน. คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ นั้น มีปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยต่อคนต่อวันลดลง หลังจากที่มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2555

กปน. เป็นองค์กรที่ผลิตและให้บริการน้ำประปาสะอาด มีคุณภาพ และมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในเขตพื้นที่บริการ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมประหยัดน้ำทุกวิถีทางอย่างต่อเนื่องทุกปีซึ่งอย่างหลังเป็นภารกิจที่ยากและท้าทายมาก

ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมา นอกจากยังไม่สามารถรณรงค์ให้คนประหยัดน้ำได้แล้ว ยังมีการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้นทุกปี อาจเป็นเพราะ กปน. เพิ่มประสิทธิภาพในการสูบจ่ายน้ำที่มีแรงดันสูงขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำอย่างทั่วถึง ทุกที่ทุกเวลา

แต่เป็นที่น่ายินดีว่าผลสำรวจในปี 2558 นี้ ปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยต่อคนต่อวันมีค่าลดลงในปริมาณที่ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จาก 223.5 เหลือ 219.5 ลิตร / คน / วัน หรือลดลงถึง 4 ลิตร ซึ่งปัจจุบัน กปน. มีผู้ใช้น้ำประมาณ 12 ล้านคน เท่ากับประชาชนช่วยลดการใช้น้ำได้ถึงวันละ 48 ล้านลิตรเลยทีเดียว

ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือ และหวังว่าความตระหนักในปัญหาทรัพยากรน้ำของประชาชนจะคงอยู่ต่อไป ไม่ใช่แค่ช่วงหน้าแล้งเท่านั้น รวมทั้งต้องช่วยกันขยายผลให้มากขึ้นเรื่อย ๆ

จากบทเรียนภัยแล้งของทุก ๆ ปี ทำให้ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้ และเพื่อรักษาระบบนิเวศป้องกันน้ำเค็มเป็นอันดับแรก ส่งผลให้ประชาชนภาคการเกษตรต้องหยุดการเพาะปลูกลงชั่วคราว ซึ่งประชาชนที่ใช้น้ำทุกคนควรตอบแทนความเสียสละของพี่น้องชาวเกษตรกรได้ด้วยการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ลดการฟุ่มเฟือย จำกัดปริมาณเท่าที่จำเป็น เพื่อให้สังคมนี้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน

การประหยัดน้ำที่ได้ผลดีที่สุด เริ่มที่ตัวบุคคล เช่นเดียวกับการสร้างเสริมลักษณะนิสัยที่ดีต้องเริ่มต้นจากในบ้าน เมื่อทุกคนในบ้านรู้คุณค่าของทรัพยากรน้ำแล้ว จึงจะส่งผลดีต่อสังคมในวงกว้างมากขึ้น ก็จะช่วยให้เรามีน้ำใช้ได้ต่อไปนาน ๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยใช้อย่างสบายใจ หันมาใช้แบบรู้คุณค่า ไม่ปล่อยให้น้ำไหลทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์
กำลังโหลดความคิดเห็น