xs
xsm
sm
md
lg

ประปาโคราชเร่งสูบน้ำ “แม่มูล” ล็อตสุดท้าย ชี้ยื้อถึงแค่ ส.ค. หากฝนไม่ตกเผชิญวิกฤตใหญ่แน่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

การประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา เร่งสูบน้ำล็อตสุดท้ายจากแม่น้ำมูล ก่อนแห้งขอดเข้าอ่างกักเก็บน้ำดิบท่าช้างอ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ระบุมีน้ำดิบผลิตประปาได้อีกแค่ 2 เดือนถึง ส.ค. เท่านั้น วันนี้ ( 8 ก.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ประปาส่วนภูมิภาคโคราชเร่งสูบน้ำล็อตสุดท้ายจาก “แม่น้ำมูล” ก่อนแห้งขอดเข้าอ่างกักเก็บน้ำดิบให้ได้มากที่สุด พร้อมงัดทุกมาตรการชะลอขาดน้ำผลิตประปา ล่าสุดปรับลดแรงดันส่งน้ำจาก 2.7 หมื่น ลบ.ม. เป็น 2 หมื่น ลบ.ม./วัน เผยน้ำดิบที่มีอยู่ 1.3 ล้าน ลบ.ม.ต่อลมหายใจได้ถึงแค่ ส.ค.นี้ หากฝนไม่ตกเผชิญวิกฤตขาดแคลนน้ำครั้งใหญ่แน่ วอนประชาชนประหยัด

วันนี้ (8 ก.ค.) นายนพดล พุ่มกันภัย ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดสูบน้ำบ้านโนนไม้แดงเหนือ ม.16 ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดสูบน้ำจากแม่น้ำมูล เพื่อนำเข้ากักเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำดิบท่าช้างของสำนักงานประปานครราชสีมา เพื่อใช้ผลิตน้ำประปาจ่ายให้บริการประชาชนใช้อุปโภคบริโภคตลอดช่วงฤดูแล้งปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการสูบน้ำจากแม่น้ำมูลล็อตสุดท้ายที่ทางเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี ได้ปล่อยลงมาให้ตามลำแม่น้ำมูล ก่อนทางเขื่อนได้งดปล่อยน้ำโดยสิ้นเชิงแล้วในขณะนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำเขื่อนเหลือน้อย

นายนพดล พุ่มกันภัย ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำล็อตสุดท้ายในลำน้ำมูลเหลืออยู่ค่อนข้างน้อยจนไม่สามารถสูบน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ขนาด 3,600 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อชั่วโมง(ชม.) ที่มีอยู่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก ขนาดชั่วโมงละ 300 ลบ.ม./ชม.เท่านั้น โดยเดินเครื่องสูบตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อนำไปเติมในอ่างเก็บน้ำดิบท่าช้างของการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งมีอยู่ 2 อ่างบนพื้นที่กว่า 300 ไร่ ขนาดความจุน้ำได้ประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. แต่ปัจจุบันเหลือน้ำดิบผลิตประปาได้เพียง 1.3 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น ซึ่งสามารถรองรับการผลิตประปาจ่ายน้ำให้ประชาชนในพื้นที่บริการ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ รวมจำนวน 25,000 ราย ได้อีกแค่ 63 วัน หรือถึงเดือน ส.ค.นี้เท่านั้น

นายนพดลกล่าวอีกว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่แล้งที่สุดในหลาย 10 ปี ทำให้ขาดแคลนน้ำผลิตประปา ซึ่งน้ำดิบที่เก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำดิบทั้ง 2 แห่งนี้ได้มาจากน้ำฝนตกท้ายเขื่อนลำมูลที่ไหลลงมาตามลำน้ำมูลแล้วเราสูบขึ้นมาสำรองไว้เท่านั้น และล่าสุดวันนี้ ทางเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรีไม่ปล่อยน้ำมาให้อีกแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำเขื่อนมีน้อย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ และพยายามสูบน้ำจากลำมูลที่เหลืออยู่ในลำน้ำขึ้นมาเก็บไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็เป็นปริมาณที่น้อยกว่าน้ำดิบที่เรานำไปผลิตประปาในแต่ละวัน

ทั้งนี้ ทางการประปาส่วนภูมิภาคได้เตรียมแผนรับมือสถานการณ์ภัยแล้งด้วยการลดแรงดันปล่อยน้ำประปา จากเดิมวันละ 27,000 ลบ.ม. เหลือ 20,000 ลบ.ม./วัน ซึ่งจะทำให้น้ำประปาช่วงนี้ไหลอ่อนลงบ้างในช่วงปลายท่อแต่ไหลทุกพื้นที่ตามปกติ ซึ่งวิธีนี้สามารถยืดระยะเวลาน้ำดิบที่มีอยู่เพิ่มได้อีกมาก

“อย่างไรก็ตาม หากเดือน ส.ค.นี้ยังไม่มีฝนตกลงมา ไม่มีน้ำให้สามารถสูบเข้ามาเติมน้ำในอ่างน้ำดิบได้ ต้องเกิดวิกฤตขาดน้ำผลิตประปาครั้งใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นต้องเข้าปรึกษากับทางจังหวัดและหน่วยงานบริหารจัดการน้ำที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป” นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ขณะนี้ทางการประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพื่อขุดอ่างเก็บน้ำดิบเพิ่มอีก 2 อ่างในพื้นที่ติดกันกับ 2 อ่างเดิมอีกกว่า 300 ไร่ ขนาดความจุรวมกว่า 2.5 ล้าน ลบ.ม. ใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท คาดว่าจะให้แล้วเสร็จปลายปีทันฤดูฝนที่จะถึงนี้ ล่าสุดผู้รับเหมากำลังเร่งทำการขุดเพื่อให้ทันเวลาฝนจะมา หากทั้ง 2 อ่างใหม่มีน้ำมาเติมจนเต็มคาดว่าพื้นที่บริการจะไม่มีปัญหาน้ำไหลอ่อนหรือน้ำไม่ไหลอย่างแน่นอน และทางการประปาส่วนภูมิภาคยังมีโครงการที่จะขยายพื้นที่บริการออกไปอีกในเส้นทางถนนมิตรภาพ ช่วงบายพาส ต.จอหอ ด้วย

“ปีนี้เป็นปีที่แล้งที่สุด ทุกคนต้องช่วยกันประหยัดน้ำให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะประชาชนผู้ใช้น้ำต้องช่วยกันประหยัด จากการติดตามการใช้น้ำแม้มีปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นแต่ปัจจุบันประชาชนยังไม่มีพฤติกรรมลดการใช้น้ำหรือใช้น้ำอย่างประหยัด ปริมาณการใช้น้ำยังเหมือนเดิม ฉะนั้น หากไม่จริงจังใช้น้ำแบบฟุ่มเฟือยก็จะทำให้เราขาดแคลนน้ำใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นายนพดลกล่าวในตอนท้าย





นายนพดล พุ่มกันภัย ผจก.การประปาสวนภูมิภาค สาขา นครราชสีมา
กำลังโหลดความคิดเห็น