เอเอฟพี – ผลการสำรวจการใช้น้ำของชาวแคลิฟอร์เนียในเดือนเมษายน 2015 ลดเหลือ 13.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้านี้ หลังจากที่ผ่านมารัฐแคลิฟอร์เนียประสบปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง และทำให้ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาตรการฉุกเฉินให้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียต้องลดการใช้น้ำลง 25 % รวมไปถึงห้ามไม่ให้สถานที่หน่วยงานท้องถิ่นของรัฐให้ปรับเปลี่ยนลานสนามหญ้าเป็นลานหินที่ไม่ต้องการใช้น้ำในการบำรุงรักษา
คณะกรรมการควบคุมแหล่งน้ำแคลิฟอร์เนีย (State Water Resources Control Board) เปิดเผยว่า ถึงแม้จะประสบความสำเร็จที่สามารถทำให้ชาวแคลิฟอร์เนียจำกัดการใช้น้ำต่ำลง 13.5% แต่ทว่าตัวเลขนี้ยังสูงกว่าตัวเลขที่ เจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียได้ประกาศก่อนหน้านี้ต้องการลดการใช้นำลง 25 ๔ หลังภาพแหล่งน้ำแคลิฟอร์เนียแห้งขอดหนัก
แต่ทว่าตัวเลขที่ออกมานั้นแสดงสัดส่วนการใช้น้ำที่ไม่สมดุลในแต่ละแห่ง โดยเอเอฟพีรายงานวันนี้(3)ว่า ในบางพื้นที่เห็นการลดลงการใช้น้ำ แต่ทว่าในบางส่วน เช่น เอล เซกันโด ( El Segundo) กลับมีตัวเลขการใช้น้ำเพิ่ม 35 %
“ในขณะที่ผลสำรวจออกมาชี้ให้เห็นว่า เราได้มาถูกทางแล้ว แต่ทว่ากลับยังมีพื้นที่อีกเป็นจำนวนมากที่ยังต้องได้รับการควบคุมทางการส่งน้ำเพื่อให้สามารถลดอัตราการใช้เหลือ 25 % ตามที่กำหนดไว้แต่แรก” เฟลิเซีย มาร์คัส (Felicia Marcus) ประธานบอร์ดบริหารน้ำรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวผ่านแถลงการณ์ และเสริมต่อว่า “เราได้เห็นการประยัดน้ำเกิดขึ้นทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ทว่าเราไม่ทราบว่าตัวเลขลดการใช้น้ำเกิดมาจากสภาพอากาศที่เย็นลง หรือเป็นเพราะความตั้งใจในการใช้ลดลง”
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ลอสแอนเจลิสได้ออกมาตรการเข้มงวดสำหรับการใช้น้ำขึ้น โดยเพิ่มอัตราค่าน้ำเป็น 3 เท่าของอัตราปกติใน 3 โซน ซึ่งรวมไปถึงเมืองมาลิบูหรูที่ลือชื่อ ซึ่งมีเหล่าผู้มีชื่อเสียงในแวดวงบันเทิงสหรัฐฯอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และคนเหล่านี้ไม่ปฎิบัติตามมาตรการลดการใช้น้ำลง 30 %
ซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้น้ำต้องลดการใช้ให้ได้ถึง 36%
มาร์คัสกล่าวต่อว่า “การทดสอบที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเราเข้าหน้าร้อน ซึ่งทั้งร้อนและแห้งแล้ง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ชาวแคลิฟอร์เนียต้องใช้โซ่ล่ามสปริงเกอร์สนามหญ้าไว้ให้ได้นานมาที่สุดเท่าที่จะทำได้”