ประเดิมโรงงานให้เช่าสีเขียวแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Certified เผยช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานกว่า 3 แสนบาทต่อปี รวมถึงประหยัดการใช้น้ำกว่า 750 ลูกบาศก์เมตรต่อปี อีกทั้งช่วยเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในโรงงานเพิ่มขึ้น เดินหน้าพัฒนาคลังสินค้าสีเขียวในกลุ่มไทคอนต่อเนื่อง มั่นใจได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
เมื่อเร็วๆ นี้ไทคอนได้รับการรับรองคุณภาพอาคารโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน LEED หรือ Leadership in Energy and Environmental Design ของ U.S. Green Building Council (USGBC) ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐานอาคารสีเขียวในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทไทคอนนับเป็นผู้พัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ารายแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง LEED Certification นี้
วีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าคุณภาพสูงพร้อมใช้เพื่อให้เช่ารายใหญ่ของประเทศไทย กล่าวว่าภายหลังผ่านการประเมินโรงงานได้ตามมาตรฐาน LEED CS เราพบว่าโรงงานต้นแบบแห่งนี้สามารถใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ดีขึ้น 32% ตามมาตรฐาน ASHRAE (มาตรฐานการใช้พลังงานในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับ ในระดับโลก) และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานได้ประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณ 356,000 บาทต่อปี สามารถลดการใช้น้ำในอาคารได้มากถึง 42 % เมื่อเทียบกับโรงงานทั่วไป ซึ่งจะช่วยประหยัดการใช้น้ำได้มากถึงประมาณ 750 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ตลอดจนคุณภาพสิ่งแวดล้อม ภายในอาคาร ได้ถูกออกแบบให้มีระบบหมุนเวียนอากาศตามมาตรฐาน ASHRAE ทำให้อาคารสามารถประหยัดพลังงานได้ อีกทั้งช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในอาคารดีขึ้นด้วย
การพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปแห่งใหม่ มีขนาดพื้นที่ 3,300 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรมเอเชียสุวรรณภูมิ นับเป็นโครงการนำร่องของกลุ่มไทคอน และเป็นอาคารต้นแบบที่ใช้ระบบการประเมินคุณภาพอาคาร แบบ LEED Core & Shell Rating System (LEED CS) ซึ่งเหมาะสำหรับการประเมินอาคารที่สร้างมาเพื่อให้เช่าโดยเฉพาะ โดยใช้งบประมาณในการดำเนินงานทั้งสิ้น 40 ล้านบาท
นอกเหนือจากโรงงานต้นแบบแห่งนี้แล้ว กลุ่มไทคอนยังอยู่ระหว่างการพัฒนาคลังสินค้าสีเขียวแห่งใหม่ตามมาตรฐาน LEED ด้วย ที่โครงการทีพาร์ค วังน้อย 2 ขนาดพื้นที่ 25,380 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้รับการรับรองคุณภาพ LEED อย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งประโยชน์ที่ได้คือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการใช้น้ำและพลังงานที่ลดน้อยลง กว่าโรงงานและคลังสินค้าทั่วไป อีกทั้งรูปแบบอาคารจะช่วยทำให้ผู้ปฏิบัติงาน ภายในอาคารมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานมากขึ้น จึงมั่นใจได้ว่า โรงงานและคลังสินค้าตามมาตรฐาน LEED นี้ จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
“ไทคอน มีแนวคิดในการพัฒนาอาคารสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2557 ตามนโยบายหลักขององค์กรในการให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างสังคมที่ดีให้ กับชุมชนโดยรอบโครงการ โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของกลุ่มไทคอน คือ การผลักดันให้โรงงานและคลังสินค้าที่พัฒนาโดยกลุ่มไทคอนเป็นอาคารที่สามารถอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ กระบวนการก่อสร้างจนถึงการใช้อาคารในการปฏิบัติงานจริง ซึ่งเรามองว่า LEED Certification สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เนื่องจาก LEED เป็นระบบการประเมินผลที่เป็นที่ยอมรับในด้านการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ไทคอนจึงตัดสินใจเข้าร่วมในการพัฒนาโครงการโรงงานสีเขียว ภายใต้มาตรฐาน LEED ดังกล่าว” วีรพันธ์ กล่าว