xs
xsm
sm
md
lg

น้ำอุปโภคบริโภคชลบุรียังไม่พ้นวิกฤต ต้องสูบจากบางปะกง-เจ้าพระยาเสริม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายบุญสม ยุติธรรมภิญโญ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานชลบุรี จ.ชลบุรี แจงสถานการณ์น้ำ
ศูนย์ข่าวศรีราชา - สถานการณ์น้ำอุปโภคบริโภคในชลบุรียังไม่พ้นวิกฤต ทั้งที่มีพายุ “หว่ามก๋อ” แต่น้ำไหลเข้าอ่างฯ เพียงเล็กน้อย ทำให้น้ำในอ่างหลักเหลือน้อยต้องสูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกง-เจ้าพระยา เสริมทั้งวันทั้งคืนตลอดระยะเวลา 40 วันก่อนถึงหน้าแล้ง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในฤดูกาลนี้



นายบุญสม ยุติธรรมภิญโญ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานชลบุรี จ.ชลบุรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดชลบุรี หลังช่วงพายุ “หว่ามก๋อ” พัดเข้ามาในช่วงที่ผ่านมา พบว่าน้ำในอ่างเก็บน้ำ 9 อ่างนับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำกักเก็บรวมกันทั้งสิ้น 58.67 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้มีน้ำกักเก็บรวมกันได้ 139.40 ลูกบาศก์เมตร โดยมีน้ำไหลเข้าอ่างจำนวน 80.69 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เป็นน้ำที่สูบจากแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตประมาณ 4.20 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้น เป็นปริมาณน้ำที่ได้มาจากพายุ “หว่ามก๋อ” เข้ามาจำนวน 76.49 ล้านลูกบาศก์เมตรนั้น แต่ส่วนใหญ่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ซึ่งมีน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร

สาเหตุที่น้ำจากพายุ “หว่ามก๋อ” ไม่เข้าอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ แต่กลับมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในจังหวัดชลบุรี, ศรีราชา และพัทยา เนื่องจากฝนที่ตกลงมาส่วนใหญ่อยู่นอกพื้นที่รับน้ำและอยู่ใต้อ่างฯ และหากจะดูดน้ำที่ท่วมล้นมากักเก็บไว้ตามอ่างฯ ต่างๆ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะน้ำดังกล่าวไม่มีคุณภาพ มีกลิ่นเหม็นและดำเนื่องจากไหลผ่านโรงงานอุตสาหกรรม และบ้านเรือนประชาชนที่มีน้ำเสียปะปนลงมาด้วย
สภาพอ่างฯบางพระ น้ำยังน้อย
นายบุญสมกล่าวต่อว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจยังมีปริมาณน้ำไม่มากนัก เช่น อ่างเก็บน้ำบางพระ มีน้ำเหลือเพียง 24.457 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 20.90% จากความจุทั้งสิ้น 117 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยหากจะเพียงพอสำหรับอ่างฯบางพระนั้นต้องมีน้ำปลายฤดูฝนในวันที่ 1 พ.ย. 58 นี้ ไม่น้อยกว่า 60 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นอ่างฯ บางพระยังขาดน้ำอีก 35 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะนี้ต้องสูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกง โดยบริษัท อีสท์วอเตอร์ และแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต จากกรมชลประทาน ได้อีกประมาณ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงระยะเวลา 40 วันนี้ หลังจากนี้ก่อนจะถึงหน้าแล้งจะไม่สามารถดูดน้ำได้ เนื่องจากน้ำจะกร่อยหรือน้ำเค็มแล้ว นอกจากนั้นในช่วงฤดูฝนที่เหลือนี้จะต้องมีน้ำไหลเข้าอ่างฯ บางพระอีกประมาณ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยน้ำไหลเข้าอ่างฯ บางพระที่คาดการณ์ไว้ แต่หากไม่เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้จะต้องประชุมหน่วยงานที่ใช้น้ำเพื่อวางมาตรการลดการใช้น้ำต่อไป
ขณะนี้มีการสูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกงและเจ้าพระยา มาที่อ่างฯบางพระ
นายบุญสมกล่าวว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำเหลือน้อยอีก 3 อ่างฯ คือ 1. อ่างฯ หนองค้อ ขณะนี้มีน้ำเหลือ 4.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากพ้นวิกฤตต้องมีน้ำไม่น้อยกว่า 15 ล้านลูกบาศก์เมตร 2. อ่างเก็บน้ำมาบปะชัน ขณะนี้มีน้ำเหลือ 6.75 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะต้องมีน้ำไม่น้อยกว่า 12 ล้านลูกบาศก์เมตร และ 3. อ่างเก็บน้ำชากนอก ขณะนี้มีน้ำ 1.70 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จะต้องมีน้ำไม่น้อยกว่า 4 ล้านลูกบาศก์เมตร หากสิ้นฤดูฝนแล้วไม่มีน้ำตามเกณฑ์ที่วางไว้โดยจะต้องวางแผนผันน้ำจากอ่างฯ หนองปลาไหล จ.ระยอง เข้ามาทดแทนต่อไป

ส่วนอ่างฯ ที่มีน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น 1. อ่างหนองกลางดง มีปริมาณน้ำเหลือ 6.006 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 7.65 ล้านลูกบาศก์เมตร 2. อ่างฯ ห้วยสะพาน มีปริมาณน้ำเหลือ 2.757 ลูกบาศก์เมตร จากความจุ 3.84 ล้านลูกบาศก์เมตร 3. อ่างฯ ห้วยขุนจิต มีปริมาณน้ำเหลือ 4.203 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 4.80 ล้านลูกบาศก์เมตร 4. อ่างฯ บ้านบึง มีปริมาณน้ำเหลือ 4.738 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 10.98 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างฯ คลองหลวง มีปริมาณน้ำเหลือ 84.310 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 98.00 ล้านลูกบาศก์เมตร
กำลังโหลดความคิดเห็น