ลำปาง - โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง แจกเอกสารผ่าน รพ.สต.ทั่วจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์เตือนผู้ปกครองระวังเด็กกิน “ดอกหัวลำโพง หรือดอกมะเขือบ้า-สวยซ่อนพิษ” มีสิทธิถึงตายได้ หลังมีเด็ก 2 พี่น้องชาวเขาเผ่าม้งเก็บไปผัดกิน จนต้องหามเข้า ICU เป็นรายแรกของประเทศมาแล้ว โชคดีแพทย์ช่วยจนปลอดภัยได้
วันนี้ (17 ต.ค.) นายแพทย์ธานี ลิ้มทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง พร้อมด้วย นายอธิฐาน วงศ์ใหญ่ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร นายแพทย์พัฒนพงศ์ เส็งพานิช หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม และแพทย์หญิง อัญชลี วังจิรพันธ์ แพทย์กุมารเวชกรรม ได้ประชุมร่วมกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เขต อ.เมืองลำปาง 27 แห่ง ที่อยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง
โอกาสนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง และแพทย์กุมารเวชผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก ได้มอบเอกสารความรู้เกี่ยวกับพิษของต้นดอกลำโพง จำนวน 20,000 แผ่น ให้แก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล 27 แห่ง เพื่อนำไปติดบอร์ดประชาสัมพันธ์ และแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ชาวบ้านได้ทราบถึงพิษต้นดอกลำโพง หากเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่กินเข้าไปอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ซึ่งเป็นการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อให้ความรู้ และเป็นการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำอีก หลังจากเกิดกรณีเด็ก 2 พี่น้อง ชาวเขาเผ่าม้งจาก บ้านใหม่พัฒนา ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เก็บดอกลำโพง ที่พบเห็นในหมู่บ้านไปผัดกิน เนื่องจากมีฐานะยากจน จนเด็กทั้ง 2 คนได้รับพิษเข้าไปจนเกิดช็อกหมดสติมาแล้ว
นายแพทย์พัฒนพงศ์ เส็งพานิช หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลลำปาง เปิดเผยว่า เด็ก2 พี่น้องที่ได้รับพิษจากดอกลำโพง ขณะนี้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก ทางแพทย์ที่ให้การรักษายังได้ย้ายเด็กที่ป่วยออกจากหอผู้ป่วยหนัก ICU เด็ก ออกมายังหอผู้ป่วยเด็กทั่วไปแล้ว เนื่องจากเด็กอาการดีขึ้นมาก ร่างกายแข็งแรง จนสามารถเดินได้ และกินอาหารอ่อนๆ ได้
“ตอนนี้เด็กทั้ง 2 คนถือว่าพิษในร่างกายได้หมดไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการยืนยันจึงได้เจาะเลือดเด็กส่งตรวจทางห้องปฎิบัติการเพื่อตรวจหาสารพิษในร่างกาย ว่า ยังมีอยู่หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในการรักษา”
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางการแพทย์เด็กถือว่า เป็นกรณีศึกษา และได้รับความรู้ นับเป็นประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมาก เพราะถือว่าเป็นกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นในลำปาง และในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งหากพบกินสิ่งผิดปกติเข้าไป และได้รับพิษเข้าสู่ร่างกาย ควรรีบให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล เพื่อทำให้สารพิษมีความเข้มข้นน้อยลง
โดยให้เด็กดื่มนม หรือน้ำเปล่า 4-5 แก้ว หรือให้กินไข่ดิบ 5-10 ฟองแทน เพื่อให้พิษเจือจางลง ตลอดจนทำให้เด็กอาเจียนออกมาเพื่อเอาสารพิษที่กินเข้าไปออกจากกระเพาะอาหาร โดยการใช้นิ้วมือล้วงกวาดลำคอ ซึ่งกรณีการช่วยเหลือเบื้องต้นดังกล่าว ทำได้ในกรณีที่เด็กยังมีสติอยู่ ไม่ควรทำถ้าเด็กหมดสติ หรือชัก
สำหรับดอกลำโพง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าต้นมะเขือบ้า ซึ่งมีดอกสวยงาม ชาวบ้านยังเรียกว่า “สวยซ่อนพิษ” เพราะถึงแม้จะเป็นดอกที่สวยงาม แต่ถือว่ามีพิษร้ายแรงมาก เพราะมีสารพิษอัลคาลอยด์ ซึ่งเป็นสารพิษที่ไม่สามารถทำลายได้ด้วยความร้อน
ดังนั้น ถึงแม้จะผ่านการประกอบอาหารทั้งต้ม หรือผัดก็ไม่สามารถทำลายพิษดังกล่าวได้ เมื่อพิษเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารจึงซึมเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นอาการที่จะแสดงจะเริ่มจากปากคอแห้ง กระหายน้ำรุนแรง สายตาพร่ามัว พูดไม่ชัด ผิวหนังร้อนแดง มีไข้สูงร่วมด้วย กล้ามเนื้อไม่ทำงาน ระบบประสาทมึนงง ประสาทหู และตาหลอน และอาจมีพฤติกรรมคล้ายโรคจิต จึงทำให้ถูกเรียกว่า “ต้นมะเขือบ้า”
ทั้งนี้ ในเด็กหากพิษเข้าสู่ร่างกายมากจะทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ เกิดอาการชัก จนช็อกหมดสติ และอาจเสียชีวิตได้