ลำปาง - แพทย์เร่งช่วยชีวิตเด็กชาวเขา 2 พี่น้อง กินดอกลำโพงมีพิษอาการสาหัส เตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลานช่วงปิดเทอมให้เข้มงวดมากขึ้น
วันนี้ (14 ต.ค.) แพทย์โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง ได้เร่งให้การรักษา และช่วยชีวิตเด็กชายอายุ 11 ปี และเด็กหญิงอายุ 9 ปี สองพี่น้องชาวเขาเผ่าม้ง หลังถูกนำส่งมาทำการรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเด็กทั้ง 2 คน ได้กินดอกต้นลำโพงเข้าไปจนทำให้เกิดอาการช็อกจนหมดสติ
นายแพทย์กิตติชัย แก้วดี รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง และแพทย์หญิง อัญชลี วังจิรพันธ์ กุมารแพทย์ ดูแลอาการของเด็กทั้ง 2 คน ให้ข้อมูลในการรักษาว่า แพทย์ได้ทำการล้างท้องขับกากดอกลำโพง และสารพิษออกไปแล้วบางส่วน ได้ให้การรักษาโดยให้เฉพาะยาปฎิชีวนะเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ขณะนี้เด็กทั้ง 2 คน ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจ ยังไม่พ้นขีดอันตรายต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดจนกว่าพิษในร่างกายจะหมดไป
จากการสอบถามทราบว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (13 ต.ค.) โรงพยาบาลเมืองปาน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเด็กชายวัย 11 ปี และเด็กหญิง วัย 9 ปี นำดอกลำโพงมากินกันที่บ้านใหม่พัฒนา หมู 7 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน หลังจากนั้น มีอาการช็อก และหมดสติ จึงได้ประสานงานไปยังคณะแพทย์ และพยาบาล พร้อมด้วยรถพยาบาลโรงพยาบาลเมืองปาน 2 คัน รุดไปที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบเด็กทั้ง 2 คนนอนหมดสติอยู่ภายในบริเวณบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าช่วยเหลือ และปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นจึงได้นำตัวเด็กทั้ง 2คน ส่งต่อมายังโรงพยาบาลลำปาง
จากการสอบถาม นายซง อายุ 25 ปี บิดาของ ด.ช.ทอม (นามสมมติ) อายุ 11 ปี และ ด.ญ.แดง (นามสมมติ) อายุ 9 ปี ทราบว่า ขณะที่ตนเองได้เดินทางออกจากบ้านพร้อมภรรยาเพื่อไปทำสวนทำไร่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้าน ปล่อยให้ลูกชาย และลูกสาวทั้ง 2 คนอยู่ที่บ้านตามลำพัง เนื่องจากโรงเรียนปิดเทอม หลังจากที่ได้ทำสวนทำไร่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้พากันเดินทางกลับมาที่บ้านก็พบลูกชาย และลูกสาวนอนร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็หมดสติไปทั้งคู่
โดยพบว่า ก่อนหน้านี้ลูกทั้ง 2 คนได้ไปเด็ดดอกลำโพงที่สวนท้ายหมู่บ้านมาผัดน้ำมันกินกัน หลังจากนั้น 1 ชั่วโมงดอกลำโพงจึงออกฤทธิ์ เด็กทั้ง 2 คนเกิดช็อก โชคดีที่พ่อแม่กลับมาถึงบ้านพอดี จึงได้รีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเมืองปาน ให้มารับตัวลูกทั้ง 2 คน นำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ล้างท้องช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน
สำหรับต้นลำโพง เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีดอกลักษณะทรงกรวยยาวปากบานคล้ายแตรทรัมเป็ต หรือคล้ายกับดอกผักบุ้ง แต่มีขนาดใหญ่กว่า โดยดอกลำโพงจะมีสารพิษ ที่เรียกว่าอัลคาลอยด์ ซึ่งพิษของดอกจะออกฤทธิ์ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ปากคอแห้ง กระหายน้ำ กลืนอาหาร และน้ำลำบาก สายตาพร่า เคลิ้ม เพ้อคลั่ง กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน มึนงง มีอาการประสาทหลอน เด็กบางคนอาจมีอาการชัก ชีพจรเต้นเร็ว และอ่อน นอกจากนี้ ยังมีอาการปัสสาวะคั่ง ท้องผูก อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ส่วนการรักษาสำหรับคนที่ได้รับพิษจากการกินดอกลำโพงเข้าไป เบื้องต้น ให้กินผงถ่านเพื่อช่วยการดูดซึมสารพิษ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ล้างท้องช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน และขอฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองของเด็กให้ช่วยกันบอกแก่เด็กด้วยว่า หากพบเห็นดอกไม้สวยๆทั้งรูปทรง และสีสัน หากไม่รู้ว่ารับประทานได้หรือไม่ก็ห้ามนำมารับประทาน เพราะดอกไม้บางชนิดก็ไม่มีอันตราย บางชนิดก็มีอันตรายถึงชีวิต
