นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ฟิตหลังรับตำแหน่งสั่งระดมกวาดล้างเหตุอาชญากรรม และเคลียร์คดีค้างเก่า ได้อาวุธปืน ยาเสพติด และผู้ต้องหาจำนวนมาก เตรียมขยายผลติดตามขบวนการซื้อขายสิ่งของผิดกฎหมายทางอินเทอร์เน็ตอีกหลายราย
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (14 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พ.ต.ท.อภิเชษฐ์ ทรัพย์ส่งเสริม สว.สส.สภ.เมืองราชบุรี ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ในช่วงระหว่างวันที่ 7-13 ตุลาคม 2558
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 กล่าวว่า หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.58 ได้รับมอบนโยบายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม การป้องกันและปราบปรามและลดอาชญากรรม และในช่วงที่ผ่านมา ได้คดีคนร้ายนำอาวุธปืนมาใช้เป็นเครื่องมือกระทำความผิด ทั้งในคดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย เพศ และทรัพย์เกิดขึ้นในพื้นที่ภาค 7 หลายครั้ง และในช่วงวันที่ 13-21 ต.ค.เป็นช่วงเทศกาลกินเจจะมีนักท่องเที่ยว และผู้ที่ถือศีลไหว้เจ้าเข้าออกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งให้ระดมกวาดล้างเหตุอาชญากรรมวันระหว่างวันที่ 7-13 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด บ่อนการพนัน แหล่งมั่วสุม อบายมุข
โดยมีผลการจับกุมมีดังนี้ อาวุธปืน จำนวน 199 กระบอก เครื่องกระสุนปืนทั่วไปจำนวน 1,210 นัด ยาเสพติดจำนวน 515 ราย จำนวน 533 คน ยาบ้า 18,099 เม็ด ไอซ์ 423.24 กรัม กัญชาแห้ง 3,751.38 กรัม คดีค้างเก่า 57 ราย 57 คน คดีอุกฉกรรจ์ทะเทือนขวัญ 5 ราย ผู้ต้องหา 5 คน คดีชีวิตร่างกายและเพศ 24 ราย ผู้ต้องหา 24 คน คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ 28 ราย ผู้ต้องหา 28 คน อื่นๆ 30 ราย 30 คน คดีการพนัน 165 ราย ผู้ต้องหา 366 คน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 295 ราย ผู้ต้องหา 304 คน และรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2,249 ราย
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ยังได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่มีการโพสต์ซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.กำแพงแสน สามารถจับกุมผู้ต้องหารวม 3 ราย พร้อมอาวุธปืนหลายกระบอกเมื่อ วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเตรียมจะขยายผลในการกวาดล้างการซื้อขายสิ่งของผิดกฎหมายประเภทนี้อีก ซึ่งมีการหลายรายที่กำลังติดตาพฤติกรรมอยู่