ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 ยังระดมส่งเฮลิคอปเตอร์ เรือรบ ค้นหา 4 ลูกเรือภัทรมารีน 5
จากกรณีเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็ก ภัทรมารีน 5 ถูกคลื่นยักษ์อิทธิพลพายุหว่ามก๋อ ซัดจมน้ำทะเลบริเวณร่องทางเดินเรือปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 7 ไมล์ทะเล รอยต่อ จ.สมุทรปราการ และชลบุรี ขณะนำสินค้าประเภทอาหารกระป๋อง และประเภทของใช้ทั่วเดินทางออกจากท่าเรือยูนิไทย ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ไปส่งท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 นิ้ว 68 ตู้ และขนาด 40 นิ้ว 20 ตู้ กู้ได้แล้ว 23 ตู้ ที่เหลือจมลงใต้ทะเล พร้อมลูกเรือรวม 6 คน ช่วยรอดชีวิตขึ้นมาได้ 2 คน คือ นายปฐม นาพาสะโก กัปตันเรือ และลูกเรือ ส่วนอีก 4 คน คือ นายนาวิน สุพรรณพยัคฆ์ ต้นเรือ นายขุขันธ์ หวังสุข นายท้ายเรือ นายธราดล แพงวิเศษ ต้นกลเรือ และนายสมพล ชาวเชียงขวาง ช่างน้ำมันเรือ ยังหายสาบสูญนั้น
ล่าสุด ช่วงสายวันนี้ (24 ก.ย.) พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 1 นำเฮลิคอปเตอร์ซีฮอว์ก หมายเลข 3206 ฝูงบิน 2 หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร มี น.ท.สุวิชาญ เทียมสวัสดิ์ นักบินที่ 1 และ ร.ท.ธนกร ม่วงทอง นักบินที่ 2 ขึ้นบินจากสนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ร่วมกับเรือตรวจการณ์ 992 โดย น.ต.วัตรรัตน์ เชื่อมสามัคคี เป็นผู้บังคับการเรือ ทำการลาดตระเวนสำรวจตำบลที่เกิดเหตุ และค้นหาลูกเรือที่ยังจมสูญหายในรัศมีโดยรอบระยะ 5 ไมล์ทะเล และริมชายฝั่ง ตั้งแต่ปากแม่น้ำบางประกง จ.ฉะเชิงเทรา ผ่านปากแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ จนมาถึงเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ซึ่งการค้นหายังไร้วี่แวว
พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า ได้รับการประสานจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสมุทรปราการ ว่า ผลการดำเนินงานเมื่อคืนนี้ได้ทำการเก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว 23 ตู้ พร้อมดำเนินการนำเข้าเก็บยังท่าเรือยูนิไท แล้ว ในส่วนการกู้ซากเรือที่จมคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเรือ และอุปกรณ์การเก็บกู้เรือทางน้ำจะเดินทางมาถึงในรุ่งเช้า และจะทำการเก็บกู้ได้ตามแผนที่วางไว้
คาดว่าใช้เวลาประมาณ 7 วัน ส่วนการส่งนักประดาน้ำลงไปสำรวจจุดเรือจม ตัวเรือ และคอนเทนเนอร์ไม่พบร่างผู้สูญหายแต่อย่างใด และในส่วนของศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ทัพเรือภาคที่ 1 ยังให้เรือตรวจการณ์ออกตระเวนค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมอากาศยาน โดยวิทยุประชาสัมพันธ์แจ้งให้เรือประมง และเรือสินค้าที่อยู่โดยรอบคอยสอดส่องค้นหาไปจนกว่าจะพบร่างผู้สูญหาย