ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 บินสำรวจมลพิษในทะเล กู้ซากเรือภัทรมารีน 5 โผล่แล้ว เพื่อทำการสำรวจผลกระทบ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (6 ต.ค.) พล.ร.ท.รังสฤษฏ์ สัตยานุกุล ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 1 นำเฮลิคอปเตอร์ซีฮอว์ก หมายเลข 3202 ฝูงบิน 2 หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร มี น.ต.มนต์ชัย พรหมประดิษฐ์ นักบินที่ 1 และ ร.อ.กิตติศักดิ์ ขุนณิรงค์ นักบินที่ 2 ขึ้นบินจากสนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ควบคู่การปฏิบัติทางภาคพื้นทะเล มีเรือตรวจการณ์ ต.15 ทำการลาดตระเวนสำรวจความเสียหาย พร้อมให้การช่วยเหลือในภารกิจกู้ซากเรือภัทรมารีน 5 ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็ก ถูกพายุหว่ามก๋อซัดจมลงบริเวณร่องทางเดินเรือ ปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 7 ไมล์ทะเล จากรอยต่อ จ.สมุทรปราการ และ จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของวันที่ 19 ก.ย.58 ที่ผ่านมา
พล.ร.ท.รังสฤษฏ์ สัตยานุกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ความคืบหน้าล่าสุด เรือกู้ซากเรือใต้น้ำ และคนงานของบริษัท AZ อันเดอร์วอเตอร์เวิร์ก ได้ทำการอัดอากาศเข้าที่บริเวณถังอับเฉา และแท่งพอนทูลด้านหัวเรือ ทำให้หัวเรือของเรือภัทรมารีน 5 ลอยโผล่พ้นน้ำ พร้อมใช้เรือเครนขนาด 200 ตัน พยุงหัวเรือขณะลากจูง โดยมีการอัดอากาศเข้าในถังอับเฉาด้านท้ายเรือ และแท่งพอนทูลที่ติดตั้งเอาไว้ทางด้านกาบเรือซ้าย และขวา เพื่อให้ท้ายเรือลอยพ้นน้ำ ก่อนจะทำการดูดน้ำออกจากตัวเรือ และลากเรือมายัง จ.สมุทรปราการ โดยใช้ร่องน้ำที่ 2 ปลายทางหน้าอู่ปราการ (บางปู 80) คาดว่าใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง จะถึงที่หมาย
“การส่งเฮลิคอปเตอร์ และเรือตรวจการณ์เข้าร่วมในภารกิจนั้น เพื่อทำการสำรวจผลกระทบ โดยเฉพาะปัญหาคราบน้ำมัน การรั่วไหลวัตถุภายในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งการสำรวจทั้งภาคพื้นทะเล และทางอากาศในรัศมีวงกว้าง และตลอดแนวชายฝั่งจาก จ.สมุทรปราการ ไปจนถึง จ.ระยอง ไม่มีรายงานผลกระทบแต่อย่างใด ในส่วนผู้สูญหาย 4 รายที่ยังค้นหาไม่พบนั้น ต้องรอผลจากการตรวจสอบในตัวเรือโดยละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหากไม่พบ ทางทัพเรือภาคที่ 1 ก็จะยังดำเนินการค้นหาจนพบร่างผู้สูญหายต่อไป”