ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 บินค้นหา 4 ลูกเรือภัทรมารีน 5 หลังอับปางปากอ่าวเจ้าพระยากลางดึกวานนี้
จากกรณีเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็ก ภัทรมารีน 5 ขนาดระวางขับน้ำ 1,029 ตันกรอส กว้าง 13.10 เมตร ยาว 71 เมตร ลึก 4.20 เมตร ถูกคลื่นยักษ์ซึ่งรับอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ จมน้ำทะเลบริเวณร่องทางเดินเรือปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 7 ไมล์ทะเล รอยต่อ จ.สมุทรปราการ และ จ.ชลบุรี บริเวณละติจูด 13 องศา 22ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 100 องศา 38 ลิปดาตะวันออก
ขณะนำสินค้าประเภทอาหารกระป๋อง และประเภทของใช้ทั่วไปเดินทางออกจากท่าเรือยูนิไทย ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อล่องเรือไปส่งสินค้าที่ประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต และขนาด 40 ฟุต หลุดออกจากระวางเรือ พร้อมกัปตัน และลูกเรือรวมทั้งหมด 7 คน ลอยอยู่กลางทะเลสามารถช่วยเหลือได้ จำนวน 3 คน ส่วนอีก 4 คนยังสูญหาย
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (20 ก.ย.) พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 1 นำอากาศยานเครื่องบินลาดตระเวนดอร์เนีย หมายเลข 1110 ฝูงบิน 101 กองบิน 1 กองการบินทหารเรือ โดยมี น.ท.ตุลรัฐ ทรงทิมไทย นักบินที่ 1 และ ร.ท.ณัฐนันท์ สุทธิกิตติรัตน์ นักบินที่ 2 ขึ้นบินจากสนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อสำรวจตำบลที่เกิดเหตุ และค้นหาลูกเรือที่ยังสูญหายอีกจำนวน 4 คน
พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี กล่าวว่า การบินลาดตระเวนทางอากาศยังไม่พบผู้สูญหายที่เหลือ เบื้องต้น ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสมุทรปราการ ได้ดำเนินการประสานให้เจ้าของเรือนำเรือเครน จำนวน 1 ลำ และเรือทัก จำนวน 3 ลำ ทำการเก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการสัญจรทางทะเลบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ
ส่วนของกองทัพเรือ โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดเรือตรวจการณ์ 18 วางกำลังในพื้นที่ในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ห้วงเวลากลางคืน พร้อมทั้งทำการตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำมันบริเวณพื้นที่เกิดเหตุอีกด้วย
