ศูนย์ข่าวศรีราชา - รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสารเคมีอันตราย ถูกรถจักรยานยนต์วิ่งตัดหน้ากะทันหันทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ สารเคมีรั่วไหลกลางถนน แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลา 23.00 น. เมื่อคืนวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.พิเชษฐ์ มีภู่เพ็ญ ร้อยเวร สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสารเคมีถูกรถจักรยานยนต์วิ่งตัดหน้าอย่างกะทันหัน และรถเกิดพลิกคว่ำ ทำให้สารเคมีกรดฟอสฟอริกที่บรรทุกมาเกิดการรั่วไหลบนถนนสายท่าเรือแหลมฉบัง บริเวณสี่แยกวัดแหลมฉบัง ม.10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครแหลมฉบัง และหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา นำกำลังพร้อมรถน้ำดับเพลิงรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-3593 ชลบุรี และหมายเลขทะเบียนส่วนหาง 71-0091 ชลบุรี จอดอยู่ในสภาพตู้คอนเทนเนอร์พลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่จึงปิดการจราจร และกันพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ส่วนคนขับรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสารเคมีนั้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ กุณโฮง อยู่ในอาการตกใจยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ คนขับรถบรรทุกดังกล่าวเผยว่า ได้บรรทุกสารสารเคมีดังกล่าวออกมาจากโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มุ่งหน้าจะไปส่งที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง แต่ในระหว่างทางได้มีรถจักรยานยนต์ไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียน ออกมาตัดหน้ารถของตนอย่างกะทันหัน จึงทำให้ตนหักรถหลบอย่างกะทันหันเช่นกัน ก่อนเสียพลิกคว่ำตามดังกล่าว
ต่อมา น.ส.นฤมล ศุกวะรัศมี ผู้จัดการรักษาความปลอดภัยคลังสินค้าอันตรายของบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ และทำการใช้ทรายมาดักสารเคมีไว้ไม่ให้ลงท่อระบายน้ำ ก่อนใช้รถเครนยกรถขึ้นตั้ง จนกระทั่งเวลาผ่านไประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไม่ให้กระจายไปในวงกว้างได้
สำหรับสารเคมีดังกล่าวเป็นกรดฟอสฟอริก ใช้ประโยชน์ในการผลิตสารพวกฟอสเฟต เช่น ที่ใช้ในปุ๋ย ผงซักฟอก สบู่ ยีสต์ ใช้ผสมเป็นวัสดุอุดฟัน ใช้ทำแก้ว ในน้ำอัดลม ในอุตสาหกรรมโลหะเขาใช้กรดฟอสฟอริกขัดผิวโลหะ ชุบโลหะ กรดฟอสฟอริกจะทำปฏิกิริยารุนแรงกับด่างเข้มข้น และโลหะหลายชนิด
หากเติมน้ำลงในกรดจะเกิดความร้อนสูงจนเดือดกระเด็นได้ และกับโลหะจะให้ก๊าซไฮโดรเจนที่ไวไฟ หากอยู่ใกล้แหล่งความร้อน หรือประกายไฟ ก๊าซไฮโดรเจนก็จะลุกไหม้ระเบิดได้ หากสูดละออง หรือผงเข้าไป หรือกลืนกิน มีฤทธิ์กัดกร่อนเช่นเดียวกับกรดอื่นๆ ทั่วไป คือ ทำให้เกิดรู้สึกแผดเผา มีอาการระคายเคืองหลอดลม เจ็บคอ แสบตา และผิวหนัง หากสูดเข้าไปอาการอาจไม่แสดงออกทันที เมื่อกลืนกินจะปวดท้องอย่างรุนแรง กระหายน้ำ หายใจลำบาก ชัก และอาจถึงตายได้ ตามที่กล่าวมา