พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา จับแก๊งลักรถจักยานยนต์รายใหญ่ในภาคกลางส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้านทางด้านชายแดนแม่สอด ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (7 ก.ย.) พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สภ.วังน้อย พ.ต.ท.ประสงค์ เทพรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.วังน้อย พร้อมชุดสืบสวน สภ.วังน้อย ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ส่งออกประเทศเพื่อนบ้านรายใหญ่ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยผู้ต้องหาได้ตระเวนลักรถจักรยานยนต์ตามหอพักต่างๆ ในพื้นที่เกือบ 10 คันในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะลงมือก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนติดตามจนพบว่าคนร้ายได้หนีไปกบดานที่อพาร์ตเมนต์ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังเข้าซุ่มจนพบ นายสุทธิพงษ์ หรือต๊ะ สัมมาบท อายุ 18 ปีบ้านเลขที่ 75 หมู่ 9 ต.ผ้างาม อ.อินทรบุรี จ.สิงห์บุรี จับกุมได้ขณะอยู่ในอพาร์ตเมนต์ พร้อมกับ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางคีมใหญ่ตัดโซ่ ตัดกุญแจ หมวกกันน็อก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผล พบว่า มีการขายต่อโดยนัดรับรถจักยานยนต์กันโดยให้นำรถมาที่จุดนัดพบ และจะมีรถบรรทุกมารับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมเพิ่มคือ นายวิรัตน์ หรือรัตน์ ยิ่งวงษ์อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/5 หมู่ 5 ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา คนขับรถบรรทุกยี่ห้ออีซุซุ สีขาว ทะเบียน 61-2727 กทม. พร้อมรถจักรยานยนต์ 4 คัน อยู่ภายในรถบรรทุกที่ลักมาจาก กทม.กำลังจะลำเลียงส่งประเทศเพื่อนบ้านผ่าน อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมาแวะรับรถจักรยานยนต์ใน อ.วังน้อย เพิ่ม
สอบสวน นายวิรัตน์ ให้การสารภาพว่า ได้ตระเวนขนย้ายรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมาทั้งรถเขต จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยจะมีคนโทร.มาจ้างให้แวะรับรถตามจุดต่างๆ ทำมาแล้วหลายครั้ง ครั้งละ 3-8 คัน ได้ครั้งละ 9,500 บาท แล้วจะนำรถที่โจรกรรมขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อตู้คอนเทนเนอร์ส่งสินค้าโดยจะนำไปส่งขายชายแดนพม่า จากนั้นจะมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาคอยรับที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ริมแม่น้ำเมย
พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สำหรับแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายนี้เป็นรายใหญ่ในเขตภาคกลาง มีเครือข่ายรายจังหวัด แก๊งดังกล่าวหลังจากโจรกรรมแล้วจะมีรถบรรทุกตู้ 6 ล้อมาคอยรับเอาขึ้นรถปิดบังอย่างมิดชิดเก็บไว้ภายในรถ หวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อ ขณะที่นำผู้ต้องหามาแถลงข่าวได้มีเจ้าทุกข์ทั้งกรุงเทพฯ และ จ.พระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์สอบถามขอดูตัวรถจักรยานยนต์แล้วหลายราย
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะทำการสอบสวนขยายผลหาผู้รวมแก๊งอีกจำนวนมากที่ยังคงหลบหนี และออกตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว เตรียมชุดสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีให้หมดต่อไป