“ไกรสร” เป็นประธานสวนสนามทางเรือ โอกาสเกษียณราชการ เผยภารกิจที่ผ่านมาตามเป้าทำหน้าที่สมบูรณ์ รับคงทำหน้าที่ใน คสช.-สนช. ยังไม่ถูกทาบนั่ง สปท. แนะอย่ายึดตัวบุคคล ให้คำนึงส่วนรวม เย็นนี้ร่วมพิธีอำลาต่อฐานะหน่วยนาวิกฯ ย้ำเรือดำน้ำศึกษารอบคอบ ไม่ดำเนินการยิ่งล้าหลัง ชี้อยู่ที่รัฐบาล เชื่อ ผบ.ทร.ใหม่สานต่อแก้ประมงผิดกฎหมายไร้ปัญหา เชื่อระยะยาวอียูประเมินดีขึ้น
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่กลางอ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานพิธีสวนสนามทางเรือ โดยกองเรือยุทธการ กองทัพเรือจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ผบ.ทร.เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ โดยจัดเรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือรับรอง พร้อมให้เรือหลวงปิ่นเกล้าเป็นเรือยิงสลุต 19 นัด จากนั้นอากาศยานได้นำธงราชนาวีพร้อมด้วยธงประจำตำแหน่งผู้ ผบ.ทร.แล่นผ่าน สำหรับเรือที่เข้าร่วมในพิธี ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงคีรีรัฐ เรือหลวงตาปี เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงกระบี่ และเรือหลวงศรีราชา นอกจากนี้ยังมีอากาศยานที่จัดเข้าร่วมประกอบด้วย เครื่องบินตรวจการณ์แบบดอร์เนีย เครื่องบินปราบเรือดำน้ำแบบ เอฟ-27 เอ็มเค 200 เครื่องบินแบบ พี-3 ที เครื่องบินแบบที-337 เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ เอส-70B (ซีฮอว์ก) เฮลิคอปเตอร์แบบ เอส-76 บี และเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212
ทั้งนี้ พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวว่า กองเรือยุทธการเป็นหน่วยกำลังสำคัญที่กองทัพเรือมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจในการปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ตนได้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทร. การปฏิบัติภารกิจต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตามเป้าประสงค์และวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือที่ได้กำหนดไว้ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงและพี่น้องประชาชนตลอดมา จากความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือจากกำลังพลทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ตนขอแสดงความชื่นชมและขอขอบคุณกำลังพลทุกคน ขอให้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อกองทัพเรือและประเทศชาติ
จากนั้น พล.ร.อ.ไกรสรให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ ขอขอบคุณที่กองทัพเรือได้จัดพิธีอย่างสง่างามบนเรือหลวงจักรีนฤเบศร ตนคิดว่าได้ทำหน้าที่ ผบ.ทร.ได้สมบูรณ์ ถึงแม้จะเกษียณอายุราชการแต่ระบบก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ไม่ห่วงการสานต่องานของ ผบ.ทร.คนใหม่ เพราะมีแผนงานรองรับไว้อยู่แล้ว
“ตื้นตันใจในชีวิตข้าราชการและถือเป็นวันที่มีความสุขที่สุดของชายชาติทหารที่ได้รับใช้ชาติ และได้ทำงานสานประโยชน์ให้กับประเทศชาติ การได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งผบ.ทร.ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และไม่มีสิ่งใดค้างคาใจ เพราะขณะนี้ต้องปล่อยวาง อะไรที่จบไปแล้วก็ให้จบไป ทั้งนี้กองทัพเองต้องอยู่ด้วยระบบ หากระบบดี งานก็จะดีไปด้วย” พล.ร.อ.ไกรสรกล่าว
เมื่อถามถึงบทบาทหลังเกษียณอายุราชการ พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวว่า ยังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะมอบหมายให้ตนเข้ามาช่วยงานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ โดยขณะนี้ยังไม่มีการทาบทามให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพราะเชื่อว่านายกฯ คงมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและมีความเหมาะสมอยู่ในใจ เมื่อถามต่อว่าหากนายกฯ ทาบทามมาจะมีความพร้อมรับตำแหน่งนี้หรือไม่ พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวว่า หากอะไรที่ทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ขออย่าให้ยึดติดที่ตัวบุคคล แต่ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ในช่วงเย็น พล.ร.อ.ไกรสรมีกำหนดเดินทางไปร่วมพิธีอำลาชีวิตการรับราชการและพิธีย่ำพระสุริย์ศรี ที่ถือเป็นขนบธรรมเนียมของทหารหน่วยนาวิกโยธิน ณ สนามหน้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ ประกอบด้วย การสวนสนามของทหารนาวิกโยธิน การแสดงโดดร่ม พิธีกล่าวอำลาชีวิตราชการ พิธีย่ำพระสุริย์ศรี และการแสดงพลุ ดอกไม้ไฟด้วย
พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า เป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลจะพิจารณา แต่ขอย้ำว่ากองทัพเรือได้ศึกษาในแง่มุมต่างๆ มาอย่างรอบคอบแล้ว ซึ่งเรื่องนี้หากไม่เริ่มทำจะเกิดความล่าช้า และจะไม่ทันต่อการพัฒนาประเทศ เพราะประเทศอื่นในภูมิภาคได้มีกองกำลังที่เข้าสู่รูปแบบสามมิติ ที่มีทั้งการป้องกันทางทะเล ทางบก และทางใต้น้ำ ขณะที่ไทยมีเพียงสองมิติที่ยังขาดส่วนของการป้องกันทางใต้น้ำ ถ้ายังไม่ดำเนินการจะทำให้อำนาจทางทะเลล้าหลังและเดินหน้าได้ไม่ต่อเนื่อง
เมื่อถามว่าในส่วนของโครงสร้างการจัดซื้อยังเป็นของประเทศจีนตามที่ได้เสนอไปยังคณะรัฐมนตรีหรือไม่ พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ผบ.ทร.คนใหม่จะพิจารณา และต้องรอทางรัฐบาลส่งเรื่องกลับมาก่อนด้วย
ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ผบ.ศปมผ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายว่า ทุกอย่างได้ดำเนินการมาได้ด้วยดีแล้ว โดยเชื่อว่า ผบ.ทร.คนใหม่จะสามารถสานต่องานได้ เพราะมีระบบงานที่สามารถทำต่อได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนในระยะสั้นเชื่อว่าผลการประเมินของสหภาพยุโรป (อียู) จะคงที่อยู่ที่เดิม แต่ในระยะยาวเชื่อว่าผลการประเมินจะดีขึ้น สำหรับการเดินทางของเจ้าหน้าที่อียูที่จะมาประเมินผลการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในเดือนตุลาคมนี้นั้น ตนเห็นว่า ศปมผ.ได้ดำเนินการทั้งหมดตามข้อท้วงติงที่อียูต้องการให้ไทยแก้ปัญหาและปรับปรุงแล้ว และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี