สุรินทร์ - ทารกชายอายุ 2 วันถูกแม่ใจร้ายคลอดแล้วทิ้งริมคลองส่งน้ำชลประทาน โชคดีชาวบ้านเห็นแจ้งรถโรงพยาบาลสุรินทร์มารับตัวไปดูแลรักษาอาการปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง น้ำหนัก 2,900 กรัม หลังเป็นข่าวมีผู้ใจบุญเดินทางมาดูตัวขอรับไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม 2 รายแล้ว
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยสุรินทร์ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่ออกหาเก็บเห็ดริมคลองส่งน้ำชลประทานว่าพบทารกแรกเกิดถูกนำมาทิ้ง พร้อมก้อนเลือดสายรกที่กองขยะข้างทางริมคลองส่งน้ำระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตอีสานสุรินทร์ ช่วงบ้านหนองกง ม.1 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์
จึงวิทยุแจ้งประสานศูนย์วิทยุศรีไผท (191) แจ้ง ร.ต.ท.เทพเทวัญ เณรธรณี ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ และศูนย์กู้ชีพนเรนทร (1669) โรงพยาบาลสุรินทร์ อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ และนำเด็กเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์อาการปลอดภัยแล้วนั้น
ล่าสุดเช้าวันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายแพทย์ สมคิด สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อขอติดตามความคืบหน้าของเด็กชายอายุย่างเข้า 2 วันในวันนี้ ซึ่งเด็กได้รับการดูแลจากพยาบาลโรงพยาบาลสุรินทร์ที่อาคาร 6 อาคารกุมารเวช พบว่าเด็กอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิดเหมือนกับ เด็กที่คลอดจากแม่ทั่วไป
พยาบาลที่ให้การดูแลเล่าว่า ขณะนี้เด็กอาการปลอดภัยแล้ว ช่วงแรกที่เด็กเข้ามายังโรงพยาบาลเด็กมีอาการตัวเย็น อุณหภูมิร่างกายต่ำ ก็ให้นอนในตู้ทำความอุ่นและแพทย์ทำการตรวจเลือด เจาะแล็บ และฉีดยาป้องกันการติดเชื้อ ทั่วไปพบว่าปกติแข็งแรง น้ำหนัก 2,900 กรัม ไม่มีภาวะแทรกซ้อน เด็กโชคดีที่ตอนมาทิ้งห่อผ้าและพลาสติกใส่ถุงผ้ามาไม่สูญเสียความร้อนมาก หลังจากเป็นข่าวไปแล้วมีผู้ใจบุญมาขอดูตัว และรับไปเป็นบุตรบุญธรรม
ด้านนายแพทย์ สมคิด สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ ระบุว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลสุรินทร์ได้ตั้งให้พยาบาลเป็นผู้ปกครองชั่วคราว เพราะเด็กไม่มีผู้แสดงตัวเป็นพ่อแม่ ซึ่งทางโรงพยาบาลสุรินทร์ได้ประสานแจ้งให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ และบ้านพักเด็กและคนชราสุรินทร์ได้รับทราบเรื่องนี้ พร้อมทั้งได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์
โดยเมื่อเด็กอายุ 2 เดือนก็จะส่งไปบ้านพักเด็กและคนชรารับไปเลี้ยงดูแล ส่วนผู้ที่มีความประสงค์รับเป็นบุตรบุญธรรมก็จะต้องผ่านขั้นตอนของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอนว่าฐานะครอบครัวเป็นเช่นไร พอที่จะเลี้ยงดูแลเด็กให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ มีความเป็นอยู่ปกติในสังคมต่อไปได้ในอนาคตหรือไม่
