พิษณุโลก - สุดเศร้า นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนดังเมืองสองแคว ถูกรุ่นพี่ ม.3 หึง ลงมือจิกหัวลากจากชั้นหนึ่งขึ้นไปถึงชั้น 3 ก่อนตบคาห้องน้ำ พร้อมจับหัวกระแทกฝาผนังในวันไหว้ครู จนได้รับบาดเจ็บต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่าเดือน สุดท้ายเสียชีวิต ญาติเชื่อโดนทำร้ายจนสมองกระทบกระเทือน
วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายศุภชัย แสงสีจันทร์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 428/2 หมู่ 7 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่าด.ญ.ศุภรัตน์ หรือน้องฟิล์ม ภู่ไทย อายุ 14 ปี นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา ซึ่งเป็นหลานสาวได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากถูกรุ่นพี่ในโรงเรียนทำร้ายร่างกาย จนต้องนอนรักษาตัวมานานนับเดือน โดยได้นำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญวัดเทพกุญชร หรือวัดโคกช้าง ต.อรัญญิก อ.เมือง
นายศุภชัย เล่าว่า น้องฟิล์มมีศักดิ์เป็นหลานสาว แต่ตนเลี้ยงดูเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่เล็ก เหตุการณ์ที่เชื่อว่านำมาสู่การชีวิตของน้องฟิล์ม เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครู น้องฟิล์มถูกทำร้ายร่างกายมาจากโรงเรียน ขณะที่ครอบครัวตนมาทราบภายหลัง โดยเที่ยงวันที่ 11 มิ.ย. น้องฟิล์มโทรศัพท์มาแจ้งนางวันดี ภู่ไทย มารดาของน้องฟิล์ม ว่ารู้สึกไม่สบาย อยากกลับบ้าน นางวันดีจึงไปรับตัวน้องฟิล์มจากโรงเรียนมาพักผ่อนที่บ้าน โดยน้องฟิล์มบ่นว่าปวดหัวและมีอาการเพลีย เบื้องต้นอาการไม่เป็นอะไรมาก
แต่ต่อมาน้องฟิล์มเกิดไม่สบายอย่างหนัก บ่นปวดหัวตลอดเวลา จึงพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ในวันที่ 13 ก.ค. 2558 ตอนนั้นน้องฟิล์มไม่ได้บอกกับครอบครัวและแพทย์ว่าโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยตรวจพบโรคแพ้ภูมิตนเอง และเกิดภาวะแทรกซ้อน จึงให้ยามารักษาตามอาการ
กระทั่งวันที่ 27 ก.ค. น้องฟิล์มมีอาการอาเจียนและเพ้อ จึงพาไปพบหมออีกครั้ง แพทย์ได้ทำการรักษาโดยการเจาะสมอง และรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูเรื่อยมา โดยน้องฟิล์มไม่ได้สติ ต่อมาวันที่ 8 ส.ค. 2558 เพื่อนในห้องเรียนได้มาเยี่ยมน้องฟิล์มที่โรงพยาบาล ตนและครอบครัวจึงได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องฟิล์มหรือไม่ เพื่อนน้องฟิล์มจึงยอมเล่าความจริงให้ฟังว่า วันที่ 11 มิ.ย. น้องฟิล์มถูกรุ่นพี่ผู้หญิงชั้น ม.3 ทำร้ายร่างกาย โดยกระชากศีรษะตั้งแต่ชั้น 1 ดึงตัวน้องฟิล์มขึ้นไปถึงชั้น 3 และทำร้ายร่างกายในห้องน้ำหญิงของอาคารเรียน
และหลังจากเข้ารับการรักษาครั้งหลังสุดเรื่อยมา น้องฟิล์มอยู่ในห้องไอซียูมาตลอด กระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายศุภชัย กล่าวว่า เมื่อครอบครัวได้ทราบเหตุการณ์ว่าน้องฟิล์มถูกทำร้ายร่างกาย และตนเชื่อว่าน้องฟิล์ม สมองได้รับความกระทบกระเทือน นำมาสู่การเจ็บป่วยอาการหนัก จึงไปแจ้งครูฝ่ายปกครองโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา และได้เรียกสอบนักเรียนพยานแวดล้อม กระทั่งพบตัวผู้ลงมือทำร้ายน้องฟิล์ม เป็นนักเรียนรุ่นพี่ชั้น ม.3 และให้การยอมรับว่าได้ทำร้ายตบตีน้องฟิล์มในวันไหว้ครูจริง รวมถึงมีพยานเห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลด้วยว่า รุ่นพี่คนนี้ได้ตบตีและดึงหัวน้องฟิล์มจากชั้น 1 ขึ้นไปบนชั้น 3 และพาไปในห้องน้ำจับศรีษะกระแทกฝาผนังในห้องน้ำ
ในวันนั้นก็มีการพูดคุยพร้อมครอบครัวผู้ทำร้ายร่างกาย ครูฝ่ายปกครอง และน้องที่ทำร้ายน้องฟิล์ม ก็ยอมรับได้กราบขอโทษนางวันดี คาดว่าสาเหตุที่ทำร้ายน้องฟิล์มมาจากความหึงหวงน้องฟิล์ม ที่ไปเล่นเฟซบุ๊กกับรุ่นพี่ผู้ชาย ที่คาดว่าแฟนของรุ่นพี่ผู้หญิง จึงเกิดความเข้าใจผิด
นายศุภชัย กล่าวว่า หลังจากประชุมร่วมกับครูฝ่ายปกครองของโรงเรียน ผู้ปกครองของเด็กรุ่นพี่ ครอบครัวตนได้เรียกร้องค่าเสียหายผู้ปกครองรุ่นพี่คนดังกล่าว 100,000 บาท พร้อมกับไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.เมือง เมื่อวันที่ 22 ส.ค. กระทั่งน้องฟิล์มเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ครอบครัวผู้ปกครองรุ่นพี่กลับขอใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิต และยังไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้
ตามใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลพุทธชินราช ระบุว่า เป็นโรคติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองจากเชื้อแบคทีเรีย และมีภาวะแทรกซ้อน นอนรักษาตัวตั้งแต่ 29 ก.ค. 2558 ถึงแก่กรรมเมื่อ 25 ส.ค. 2558 แต่ตนเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้น้องฟิล์มมีอาการป่วยหนักจนเสียชีวิต มาจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
ล่าสุดวันนี้(26 ส.ค.) คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา นำโดยนางโสพิศ เทศสลุด รองผู้อำนวยการ และเพื่อนนักเรียนร่วมชั้น ม.2/9 ได้นำพวงหรีดของโรงเรียน พร้อมเงินร่วมทำบุญของคณะครูและนักเรียน มามอบให้กับนางวันดี พร้อมแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยโรงเรียนพุทธชินราช จะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพในคืนวันที่ 27 ส.ค.นี้
ด้านนางโสพิศ กล่าวว่า นายเดชา สมบูรณ์พงษ์กิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนติดราชการต่างจังหวัด ได้มอบหมายให้ตนและคณะครูฝ่ายปกครอง ครูที่ปรึกษานำพวงหรีดมามอบให้ครอบครัวด.ญ.ศุภรัตน์ ซึ่งโรงเรียนรู้สึกเสียใจอย่างมากกับการสูญเสียนักเรียนไปในวันนี้ และหลังจากได้ทราบเรื่องจากผู้ปกครองว่า ด.ญ.ศุภรัตน์ถูกทำร้ายร่างกาย โรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและทราบเหตุการณ์ว่า มีการทำร้ายร่างกายน้องศุภรัตน์ในวันไหว้ครู คือ วันที่ 11 มิ.ย.จริง เป็นเหตุการณ์หลังกิจกรรมไหว้ครู ซึ่งตอนนั้นโรงเรียนก็ไม่ทราบเรื่อง
ต่อมาได้เชิญผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมาประชุมร่วมกัน พร้อมกับสอบถามพยานแวดล้อมนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ และมีการตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ 100,000 บาท แต่ก็ยังไม่ได้มอบให้ ส่วนรุ่นพี่ชั้นม.3 นั้น ก็ไม่ได้พักการเรียนใด และได้กราบขอโทษแม่ไปแล้วด้วย ครอบครัวด.ญ.ศุภรัตน์ ก็ไม่อยากให้รุ่นพี่คนดังกล่าวต้องหมดโอกาสจากการถูกพักการเรียน ส่วนการชดใช้ค่ายเสียหายหลังจากนี้ เป็นเรื่องที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต้องทำความตกลงร่วมกัน เพราะครอบครัวฝ่ายเสียหายก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
นายบุญส่ง เทียนคำ หัวหน้าฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน หรืออาจารย์ฝ่ายปกครอง กล่าวว่า โรงเรียนได้เข้มงวดเรื่องกฏระเบียบมาอย่างต่อเนื่อง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด และนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ ก็ไม่แจ้งให้คณะครูในโรงเรียนทราบ ผู้ปกครองน้องก็มาทราบภายหลังหลังเมื่อน้องอาการแย่รักษาตัวในห้องไอซียู หลังจากนี้จะเข้มงวดดูแลความปลอดภัยมากขึ้น
ขณะที่เรื่องการชดใช้ค่าเสียหายนั้น เป็นการเจรจาระหว่างผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย ส่วนด้านการลงบันทึกประจำวัน หากตำรวจจะเรียกสอบพยานผู้เห็นเหตุการณ์ก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ต้องแจ้งมาผ่านทางโรงเรียนก่อนเท่านั้น
สำหรับการเดินทางมาวางพวงหรีดของคณะครู และนักเรียนที่วัดโคกช้างวันนี้ มีเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นม. 2/9 มาแสดงความเคารพศพด้วย ซึ่งมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งเล่าเหตุการณ์ว่า น้องศุภรัตน์ได้ไปเข้าฝัน โดยสวมชุดเสื้อสีขาวมาให้เห็นในฝัน ไม่ได้พูดอะไร ขณะที่การฌาปณกิจทางครอบครัวกำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค. ที่เมรุวัดเทพกุญชร หรือวัดโคกช้าง