ชาวบ้านรอบเหมืองทองอัครากว่าพันคนชุมนุมขอเปิดเวทีรับฟังนโยบาย “ทองคำ”

พิจิตร - ชาวบ้านและพนักงานรอบเหมืองทองอัคราพิจิตรกว่าพันคนชุมนุมสนับสนุนเรียกร้องจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นนโยบายทองคำ ทั้งยื่น 4 ข้อเรียกร้องถึงอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ผ่านอุตสาหกรรมจังหวัด

วันนี้ (16 ก.ย.) นายสุรชาติ หมุนสมัย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 993 หมู่ 4 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เป็นแกนนำพาพนักงานรวมถึงครอบครัวและชาวบ้านที่อยู่รอบๆ เหมืองทองจำนวนกว่า 1 พันคน มาชุมนุมรวมตัวกันที่บริเวณหน้าเหมืองแร่ทองอัคราซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร โดยมีการเรียกร้องขอให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นนโยบายทองคำเพื่อที่จะให้เหมืองทองอัคราสามารถดำเนินกิจการได้ต่อไป

พร้อมทั้งกล่าวพาดพิงไปถึงกลุ่ม NGO บางคน ที่มีไม่ถึง 20 คนแต่ไปคัดค้าน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่หลายพันคนที่มีภูมิลำเนาอยู่รอบเหมืองต่างแห่กันมาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ คาดว่าน่าจะได้มากกว่า 5,000 รายชื่อเพื่อสนับสนุนนโยบายสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำเพราะประโยชน์ที่ได้รับ คือ ทำให้ชาวบ้านมีงานทำรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีและกระจายสู่ท้องถิ่น จนทำให้เกิดพัฒนาที่เป็นรูปธรรมในหลายด้านชาวบ้านและพนักงานจึงมีการรวมตัวกันออกมาส่งเสียงเชียร์เหมืองแร่ทองคำอัครา รีซอร์สเซส ดังกล่าว

ด้านนายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการฝ่ายประสานงานภายนอก บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า กลุ่มพนักงานและชาวบ้านรวมถึงผู้นำชุมชนเหล่านี้ต่างทราบดีว่าเหมืองทองอัคราดำเนินกิจการมา 15 ปี ไม่เคยสร้างปัญหา มีแต่สร้างความเจริญเพื่อผลิตแร่ทองคำขาย นำเงินตราเข้าประเทศ แต่ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องเพื่อส่งเสียงให้ถึงอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) คือ ขอเรียกร้องให้เร่งดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นนโยบายทองคำ เพราะเล็งเห็นว่านโยบายสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำมีความสำคัญต่อการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืนของชุมชน โดยมีข้อเรียกร้อง 4 ประเด็น

คือ 1. ขอให้กรมฯชี้แจงเพิ่มเติมในข้อความที่ส่งหนังสือถึง ผวจ.พิจิตร เพื่อแจ้งเลื่อนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามหนังสือเลขที่ อก.0502/4126 ที่ว่า “ประชาชนที่มาคัดค้านการจัดการรับฟังความคิดเห็นอย่างมีนัยสำคัญ” นั้นมีจำนวนเท่าใด อาศัยอยู่รอบเหมืองทองคำจริงหรือไม่

2.ขอให้กรมชี้แจงเหตุผลที่เลื่อนการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่แท้จริง 3. ขอเรียกร้องให้จัดการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านเกี่ยวกับนโยบายสำรวจและทำเหมืองทองคำ ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ โดยเร่งด่วน 4. ขอให้กรมฯ ชี้แจงและหามาตรการรองรับคนว่างงานอีกกว่า 1,000 อัตรา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการล่าช้าในการผ่านร่างนโยบายดังกล่าว

รวมทั้งแผนรองรับการดูแลครอบครัวของผู้ที่ตกงานให้เทียบเท่าความเป็นอยู่เดิมของพวกเขา รวมทั้งการขาดประโยชน์ที่ชุมชนได้รับอยู่ในปัจจุบัน ทั้งจากค่าภาคหลวงที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นนำมาพัฒนาชุมชนเงินกองทุนพัฒนาชุมชนที่เหมืองจ่ายตรงให้กับท้องถิ่นและเงินกองทุนต่างๆ ที่ทางเหมืองจ่ายสะสมไว้ให้กับชาวบ้าน ซึ่งจะถูกนำมาใช้ให้ไปเป็นประโยชน์ต่อชุมชนรอบเหมืองทองอัคราในภายหลังว่าจะมีการชดเชยผลประโยชน์เหล่านี้อย่างไรอย่างเป็นรูปธรรม

ภายหลังจากการชุมนุมและร่วมกันลงชื่อสนับสนุนเหมืองทองอัคราแล้ว บรรดาแกนนำประมาณ 30 คนก็ได้เดินทางต่อไปที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อยื่นหนังสือตามข้อเรียกร้องดังกล่าวเพื่อให้ส่งตรงถึงอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ต่อไป