xs
xsm
sm
md
lg

ก.อุตฯ ลดขั้นตอนการเบิกเงินกองทุนเหมืองประกันความเสี่ยงฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ก.อุตฯ เร่งลดขั้นตอนเบิกเงินกองทุนเหมืองประกันความเสี่ยงฯ เพื่อช่วยเหลือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของชาวบ้าน จ.พิจิตรจากผลกระทบการทำเหมืองทองคำ เผยล่าสุดอนุมัติเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำในเบื้องต้นไปแล้วจำนวน 4.7 ล้านบาท


นางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีประชาชนร้องเรียน บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน ภายหลังการลงพื้นที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ได้รับรายงานจากอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรถึงผลการประชุมของคณะกรรมการ 5 ฝ่ายฯ มีข้อสรุปเบื้องต้นคือมอบให้ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการลงพื้นที่เพื่อตรวจรักษาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะมีการลงพื้นที่อีกครั้งวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ นอกจากการตรวจติดตามด้านสุขภาพในระยะสั้นแล้ว ยังกำหนดแผนการป้องกัน และเฝ้าระวังในระยะยาวต่อไป ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จะดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งแก้ไขระเบียบการใช้จ่ายเงินกองทุนประกันความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น

“ที่ผ่านมาการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนประกันความเสี่ยงฯ จะอิงกับระบบของทางราชการ ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสในการดำเนินงาน ซึ่งที่ผ่านมาที่อาจมีหลายขั้นตอน และทำให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ล่าช้าไปบ้าง จากนี้ไปจะลดขั้นตอน และระยะเวลาลง โดยให้นำความเดือดร้อนต่างๆ ที่ประชาชนได้รับผลกระทบกรณีเหมืองแร่ทองคำจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ 5 ฝ่ายฯ เพื่อมีมติที่ประชุมออกมา แล้วจะเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด โดยแนบเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วนเพื่อนำไปเบิกเงินจากกองทุนประกันความเสี่ยงฯ ซึ่งมีอธิบดี กพร.เป็นประธาน

นายสุรพงษ์ เชียงทอง อธิบดี กพร. ในฐานะประธานกองทุนประกันความเสี่ยงฯ กล่าวว่า ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำในเบื้องต้นไปแล้วจำนวน 4.7 ล้านบาทให้แก่จังหวัดพิจิตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพประชาชนที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบกรณีการปนเปื้อนของสารโลหะหนักในร่างกาย และการจัดซื้อถังน้ำเป็นภาชนะรองรับน้ำ ซึ่งจังหวัดจะดำเนินการแจกจ่ายต่อไป ในขณะเดียวกัน ได้มีการติดตามตรวจสอบการดำเนินการตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในการประกอบกิจการของบริษัท อัคราฯ โดยมีแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่องปีละ 4 ครั้ง เพื่อกำกับดูแลตามมาตรการ EHIA อย่างเคร่งครัด โดยให้ตัวแทนภาคประชาชนที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสนอชื่อเข้าร่วมตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ด้วย

สำหรับระเบียบการใช้จ่ายเงินกองทุนดังกล่าวที่เกิดขึ้น เนื่องจาก กพร.ได้กำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตประทานบัตรว่า บริษัทฯ ต้องจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม และพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งนำเข้าเงินกองทุนดังกล่าวปีละ 10 ล้านบาท เป็นเวลา 15 ปี เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเมื่อสิ้นสุดโครงการทำเหมือง รวมทั้งมีมาตรการติดตามเฝ้าระวังผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากโครงการทำเหมืองไปอีกระยะเวลาหนึ่ง ประมาณ 5-10 ปี ในกรณีที่ไม่มีปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นเงินกองทุนดังกล่าวจะถูกส่งมอบคืนไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่ตั้งโครงการทำเหมือง เพื่อให้นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สุขอนามัย การศึกษา และดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น