นายถาวร เมฆพยัคฆ์ นิติกร 10 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แทน กฟผ. เข้ายื่นหนังสือเอกสารรายงานผลการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในการดำเนินมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากคดีเหมืองแม่เมาะ ซึ่งศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 ให้ กฟผ. ดำเนินมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม 5 ข้อ ภายใน 90 วัน หรือภายในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 และหาก กฟผ. มีมาตรการที่สามารถป้องกัน และแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่า ให้ดำเนินการยื่นขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขมาตรการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา ซึ่ง กฟผ.ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาภายในกรอบเวลาที่กำหนดแล้ว
ด้าน นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. กล่าวว่า ได้ดำเนินมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยได้ยื่นขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในบางกรณี ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามที่ศาลมีคำพิพากษา หากเป็นมาตรการที่ดีกว่า และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขณะนี้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้อนุญาตเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 ให้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของมาตรการตามที่เสนอแล้ว ประกอบด้วยมาตรการที่มีมาตรฐานและเหมาะสมกว่าคือ การปลูกต้นไม้ใบหนาแน่นเพื่อเป็นการลดฝุ่นละอองแทนการใช้ม่านน้ำ และการบำบัดน้ำแบบ Anaerobic bacteria แทนการปลูกพืชในพื้นที่ Wetland สำหรับสวนพฤกษชาติ และสนามกอล์ฟนั้น กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่อยู่ในเขตขุมเหมือง และได้มีการตั้งคณะทำงานระดับท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญพิจารณาการอพยพราษฎรออกจากรัศมีผลกระทบ 5 กิโลเมตรแล้ว เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2558 ซึ่ง กฟผ. ได้นำเรื่องรายงานต่อสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว
ด้าน นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. กล่าวว่า ได้ดำเนินมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยได้ยื่นขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในบางกรณี ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามที่ศาลมีคำพิพากษา หากเป็นมาตรการที่ดีกว่า และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขณะนี้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้อนุญาตเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 ให้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของมาตรการตามที่เสนอแล้ว ประกอบด้วยมาตรการที่มีมาตรฐานและเหมาะสมกว่าคือ การปลูกต้นไม้ใบหนาแน่นเพื่อเป็นการลดฝุ่นละอองแทนการใช้ม่านน้ำ และการบำบัดน้ำแบบ Anaerobic bacteria แทนการปลูกพืชในพื้นที่ Wetland สำหรับสวนพฤกษชาติ และสนามกอล์ฟนั้น กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่อยู่ในเขตขุมเหมือง และได้มีการตั้งคณะทำงานระดับท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญพิจารณาการอพยพราษฎรออกจากรัศมีผลกระทบ 5 กิโลเมตรแล้ว เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2558 ซึ่ง กฟผ. ได้นำเรื่องรายงานต่อสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว
